Ford PUMA เอสยูวีเล็กขายทั้งในยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชียบางประเทศจนได้รับการตอบรับอย่างดีมาตลอดห้าปีของการขาย
และ ฟอร์ด ยังต้องการสร้างสีสันด้วยการปรับโฉมครั้งแรกเริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมย้ายโลโก้ Ford มาอยู่ในชุดกระจังหน้า พร้อมไฟหน้า Dynamic Matrix LED โคมใหม่ ออกแบบไฟส่องสว่างเวลากลางวันรูปตัว C แบบ LED พร้อมสองเส้นแนวตั้ง ลงตัวด้วยชุดกันชนหน้าสปอร์ตทรงเท่พร้อม เด่นด้วยกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน ด้านหลังเด่นด้วยไฟท้าย LED พร้อมการออกแบบฝาท้ายและกันชนหลังลงตัวเป็นหนึ่งเดียวลิ้นสปอยเลอร์หลังใต้กันชนดีไซน์ใหม่ พร้อมตราอักษร PUMA และล้ออัลลอยเลือกได้ทั้งขนาด 17-19 นิ้ว
ภายในใหม่หมดทันสมัยแด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12 นิ้ว ระบบความบันเทิง SYNC 4 รองรับไร้สายทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay แผงควบคุมปรับอากาศอัตโนมัติในจอ พร้อมมาตรวัดดิจิทัลใหม่ขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านท้ายตัด บนชุดคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ มีที่ชาร์จมือถือไร้สาย พร้อมลำโพงคุณภาพจาก B&O ถึง 10 จุดมีพื้นที่สัมภาระใหญ่สุด 456-1,216 ลิตร มาพร้อมระบบ 5G FordPass Connect ตรวจสอบสถานะตัวรถ สามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อก ระบุตำแหน่งตัวรถ ตรวจสอบระดับน้ำมัน แรงดันลมยาง จากสมารต์โฟนที่ได้ทำการเชื่อมต่อไว้แล้ว
ขุมพลังมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ EcoBoost Mild Hybrid ขนาด 1.0 ลิตร 3 สูบ ให้เลือกตั้งแต่สามควมแรงเริ่มที่ 125 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร แบบ Mid Power 155 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร และแบบ High Power ให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 248 นิวตันเมตร แทนเครื่องเดิมเบนซินเทอร์โบ EcoBoost 1.5 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ทั้งสามความแรงมาพร้อมระบบ Mild-hybrid ทำงานคู่กันพร้อมมอเตอร์ผลิตกระแสไฟ ขนาด 11.5 kW และแบตเตอรี่ lithium-ion battery 48 โวลต์
นอกจากนี้มอเตอร์ไฟฟ้ายังเพิ่มแรงบิดสูงถึง 20 นิวตันเมตร เสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เฉพาะรุ่น 125 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด Powershift ขับเคลื่อนล้อหน้า รุ่นปรับโฉมมีทั้งรุ่น Titanium, ST-Line, ST-Line X และ ST พร้อมสีเทาอ่อนใหม่ Cactus Grey จากหกเฉดสีที่มีให้เลือก ประเดิมขายที่อังกฤษ เริ่ม £25,790 หรือราว 1,175,000 บาท
