ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทย ยังคงต้อนรับคู่แข่งหน้าใหม่อยู่เรื่อยๆ และล่าสุดก็เป็น Hyptec HT อเนกประสงค์ไฟฟ้าสไตล์โมเดิร์นพรีเมียม ราคา 1,449,000 บาท จากผู้ผลิตเครือ GAC Aion
Hyptec HT คือรถอเนกประสงค์ไฟฟ้าจากแบรนด์ระดับเรือธงภายใต้เครือ GAC Aion ซึ่งมาพร้อมกับงานออกแบบและลูกเล่นสุดพรีเมียมมากมาย
ความโดดเด่นของตัวรถ เริ่มสัมผัสได้ตั้งแต่แรกเห็นจากทรวดทรงของมัน ที่เน้นความโค้งมนในแทบทุกสัดส่วน แต่ยังคงไว้ซึ่งความรู้สึกแข็งแกร่งจากความโป่งนูนของตัวถังด้านข้าง โดยที่ด้านหน้าทางค่ายระบุว่าตั้งใจให้มันดูสวยงามราวกับงานศิลปะยุคกรีกที่แกะสลักขึ้นจากหินอ่อน
นอกจากนี้ ในส่วนของชุดไฟหน้า และไฟท้ายของตัวรถ ยังถูกระบุว่าทางค่ายตั้งใจออกแบบให้มันดูเหมือนกับอัญมณี ทั้งจี้เพชรภายในกล่องสักหลาดสำหรับตัวโคมไฟทางหน้า และสร้อยเพชรสำหรับไฟท้ายทางด้านหลัง ก่อนที่จะเสริมความงามด้วยการเลือกปรับสีสันตัวรถให้สามารถแสดงรายละเอียดการเล่นแสงเงาที่สะดุดตาในทุกมุมมองของตัวรถเหมือนผิวน้ำสะท้อนแสงได้อีก
ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ตัวรถ Hypetec HT ยังมีรุ่นที่ประตูคู่หลัง สามารถเปิดขึ้นในลักษณะของบานประตูแบบปีกนกด้วย โดยนอกจากประตูที่ว่านี้ จะมีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับวัตถุทางด้านข้าง เพื่อประสานการทำงานร่วมกับระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เช่นเดียวกับประตูคู่หน้า มันยังสามารถเปิด-ปิด ด้วยคำสั่งที่หลากหลายถึง 5 รูปแบบ และยังถูกออกแบบด้วยกลไกที่มีความทนทานระดับ Military Grade สามารถเปิด-ปิดได้มากกว่า 30,000 ครั้ง ซึ่งเท่ากับการใช้งานรถโดยเฉลี่ยราวๆ 17 ปี เลยทีเดียว
ภายในห้องโดยสารเองก็เน้นความหรูหรา แต่ไม่เว่อร์วังจนเกินไปไม่แพ้ภายนอก ด้วยรายละเอียดงานดีไซน์คอนโซลที่ดูสะอาดตา แต่ตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มหนังบุนุ่มอย่างดี และยังมีจอแสดงผลติดตั้งแบบกึ่งลอยตัวขนาด 8.88 นิ้ว ทางด้านหน้าผู้ขับ เช่นเดียวกับจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 14.6 นิ้ว ความคมชัดระดับ 2K อยู่ตรงกลาง โดยเป็นจอที่มีไว้เพื่อสั่งการระบบลูกเล่นต่างๆภายในรถแทบทั้งหมดอีกด้วย
ลูกเล่นภายในห้องโดยสารตัวรถยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอีกมากมาย ทั้ง ม่านไฟฟ้า, ลำโพงระดับ Hi-Fi อีก 22 จุด กำลังขับรวม 1,440 วัตต์ พร้อมระบบกระขายเสียง Dolby Atmos ปรับแต่งมิติเสียงโดยวิศวกรด้านเสียงชื่อดังชาวเบลเยียม Peter de Paul และยังรวมถึงในส่วนเบาะโดยสาร ที่ใส่ลูกเล่นเข้ามาอีกหลากหลาย เช่น เบาะนวด 10 จุดสำหรับที่นั่งด้านหน้า, แผ่นรองน่องไฟฟ้าสำหรับเบาะโดยสารคู่หน้า, เบาะตอนหลังสามารถปรับเอนได้สูงสุด 143 องศา, โหมด VIP สำหรับเบาะหลัง, โหมดการนอนหลับตอนหลัง
และเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการเดือนทาง หรือแคมป์ปิ้งบ่อยๆ ตัวรถยังมีพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระรวมกันเกือบ 1,900 ลิตร แบ่งเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้า 55 ลิตร, และพื้นที่เก็บสัมภาระเมื่อปับเบาะคู่หลังนอนราบอีก 1,802 ลิตร หรือหากไม่พับเบาะก็ยังมีพื้นที่กว่า 670 ลิตรอยู่ดี
ด้านแบตเตอรี่ที่ติดรถมา เบื้องต้นตอนนี้จะมีเพียงแบบเดียว คือแบตเตอรี่ LFP ขนาด 83 kWh รองรับระยะทางการวิ่งสูงสุด 620 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และด้วยการออกแบบระบบสภาปัตยกรรมการจ่ายไฟแบบ 800 Volt ทำให้มันรองรับความแรงในการชาร์จไฟกลับสูงสุด 280 kW และสามารถชาร์จไฟจาก 10%-70% ได้ภายในเวลา 15 นาที สำหรับการเดินทางด้วยระยะทางราว 372 กิโลเมตร หรือหากเป็นการชาร์จไฟจาก 0%-100% ก็จะใช้เวลาราวๆ 53 นาที พร้อมรองรับระบบจ่ายไฟแบบ V2L ด้วยกระแสไฟฟ้าสูงสุดอีก 3.3 kW (3,300 วัตต์)
ขณะที่ขุมกำลัง ก็จะมีให้เลือกเพียงแบบเดียวเท่านั้นเช่นกัน นั่นคือขุมกำลังมอเตอร์เดี่ยวสำหรับขับเคลื่อนล้อหลังเพียงอย่างเดียว โดยมันจะมาพร้อมกับตัวเลขพละกำลังสูงสุด 340 PS และแรงบิดสูงสุดอีก 430 นิวตันเมตร พร้อมความสามารถในการเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.8 วินาที มีการจำกัดความเร็วสูงสุด เอาไว้ที่ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง และโหมดการขับขี่ให้เลือกปรับอีก 4 รูปแบบ
ส่วนระบบความปลอดภัยที่ให้มาเอง ก็ยังจัดว่าครบครัน ทั้ง ระบบความปลอดภัยเชิงรุกอย่าง ESP, ABS, EBD, EPB, HHC, HDC, VDC, TCS, DMS, และ TPMS เสริมด้วยระบบความปลอดภัยและระบบอำนวยความสะดวกขั้นสูงจากเซนเซอร์ และเรดาร์รอบคัน อย่าง ACC S&G, ICA + TJA, CSC, AEB, FCW, LDW, LDA, IHBC, BSD, DOW, RCTA, และ RAW
โดย Hyptec HT พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ พร้อมราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่
- Hyptec HT – 620 Premium : 1,449,000 บาท
- Hyptec HT – 620 Luxury : 1,749,000 บาท