Geely Galaxy E8 เก๋งอีวีหรูรุ่นใหม่เตรียมท้าชน Toyota Camry และ Honda Accord ด้วยการแนะนำรุ่น Dragon Edition
รุ่นใหม่มีด้วยกันสองรุ่นย่อย เพิ่มสีใหม่มาสามสีทั้งสีน้ำเงิน Xizi Blue, สีเทา Smoke Gray และสีดำ Dawn Black ด้านหน้าของรถเริ่มที่กระจังหน้าแบบทรงทึบปะโลโก้ Galaxy ประกบไฟ DRL โคมเดียวกันที่เฉียบคม กันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศเสริมคิ้ว มีไฟหหน้า LED แนวนอน และแถบไฟ LED รูปตัว L ครอบทับไฟหน้า ด้านข้างออกแบบเส้นสายที่เรียบง่ายด้วยกระจกโอเปร่าและมือจับประตูแบบเรียบเนียนกับตัวถังและยื่นออกมาเปิดออกได้ กระจกมองข้าง
ส่วนท้ายดึงดูดหรือมีเอกลักษณ์เป็นพิเศษที่โดดเด่นคือแถบไฟ LED แนวยาวดีไซน์ลูกปัดในโคมประกอบด้วยดวงไฟ LED 390 ดวง ประกอบขึ้นให้ความโดดเด่นและสวยงาม ถึงตัวรถจะมาแบบ Fastback ฝากระโปรงท้ายเปิดแบบรถซีดาน และล้ออัลลอยเลือกได้สองขนาดตั้งแต่ขนาด 18-20 นิ้ว ตัวรถพัฒนามาจากแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งรูปทรงสามารถดึงดูดสายตาได้
ภายในมีความโดดเด่นขึ้นเช่น จอแสดงผลขนาด 45 นิ้วความละเอียด 8K ขนาดใหญ่ ขยายความกว้างเต็มแผงคอนโซลหน้า พร้อมระบบประมวผลรวดเร็วด้วยชิปจาก Qualcomm Snapdragon 8295 พร้อมระบบปฏิบัติการ Galaxy N OS เวอร์ชันใหม่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสองก้านทั้งแบบหัวตัดท้ายตัดและแบบท้ายตัดไร้ส่วนบน Yoke Steering Wheel
คอนโซลกลางที่เรียบง่ายพร้อมปุ่ม 6 ปุ่ม แป้นหมุนแบบกลม แผ่นชาร์จไร้สาย และช่องเก็บของแบบแยกส่วน คุณสมบัติมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบไฟส่องสว่างโดยรอบ เบาะหนังแท้ทรงหรูหราตัดเย็บประณีตพร้อมหนังสัมผัสเดินด้ายอย่างบรรจงปรับด้วยไฟฟ้าคู่หน้า 6 ทิศทาง พร้อมลำโพง 12 จุด มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ HUD และซันรูฟแบบพาโนรามา
ขุมพลังไฟฟ้ามีสองทางเลือกตั้งแต่รุ่น 400V มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมความจุแบตเตอรี่ LFP 62 kWh 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 550 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.9 วินาที
รุ่นท็อปสุด 800 V ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ มาพร้อมไดรฟ์ไฟฟ้า SiC ประสิทธิภาพสูง พร้อมความจุแบตเตอรี่ LFP 76 kWh ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้าในล้อหน้าและล้อหลังเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวม 646 แรงม้า แรงบิดรวม 710 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 620 กิโลเมตร และอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.49 วินาที ทั้งสองรุ่นชาร์จได้ทั้งแบบ AC และ DC ชาร์จ 10-80% ภายใน 18 นาที
พร้อมระบบ LiDAR หรือ Light Detection and Ranging ตรวจจับวัดระยะทางของวัตถุและคนเดิน โดยการใช้แสงเลเซอร์ไปกระทบกับวัตถุแล้วคำนวณระยะทางด้วยระยะเวลาทำงานได้เร็ว ประกอบด้วย รวมถึงกล้องแปดตัว เรดาร์ เซนเซอร์อัลตราโซนิก และเซนเซอร์ของระบบ LiDAR ตรวจจับคนเดินถนนด้วยระยะไกลสูง ในราคาขายเริ่มที่ 165,800 – 215,800 Yuan หรือราว 849,000-1,104,000 บาท