ท่ามกลางยุคที่ตลาดรถกระบะในไทยซบเซาหนัก Great Wall Motor กลับยังคงห้าวหาญที่จะรุกตลาดนี้ด้วย GWM POER SAHAR HEV ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่ามันจะถูกวางจำหน่ายในบ้านเราด้วย 2 รุ่นย่อย
GWM POER SAHAR HEV มาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความยาว 5,445 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,991 มิลลิเมตร และความสูง 1,924 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,350 มิลลิเมตร ซึ่งนับว่ายาวที่สุดในตลาดรถกระบะในปัจจุบัน พร้อมระยะห่างของล้อคู่หน้าและหลัง 1,635 มิลลิเมตร ระยะความสูงใต้ท้องรถ 224 มิลลิเมตร และความสามารถในการลุยน้ำได้ถึง 800 มิลลิเมตรซึ่งถือว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐานของรถกระบะตัวลุยยุคปัจจุบัน แม้ว่ามันจะมีภาพลักษณ์ติดหรูมากกว่าก็ตาม
ในส่วนงานออกแบบรอบคัน เรียกได้ว่าใช้เส้นสายเดียวกันกับ TANK 500 ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่ใช้พื้นฐานโครงสร้างเดียวกัน และแน่นอนว่าในเมื่อมันมาพร้อมกับภาพลักษณ์กึ่งลุยติดหรู มันจึงมีลูกเล่นต่างๆติดตัวมามากมาย ทั้ง ไฟหน้า LED อัจฉริยะ ซึ่งมาพร้อมกับลูกเล่นระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home) พร้อมระบบไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (DRL – Daytime Running Light) ระบบไฟตัดหมอกด้านหน้า-หลังแบบ LED (เฉพาะรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD) และระบบไฟท้ายแบบ LED
ทางด้านข้าง เราจะเห็นออพชันติดรถที่สายลุยควรมีมากมาย ทั้ง ราวหลังคาที่มีความแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักบรรทุกด้านบนได้ดี, เสาอากาศแบบครีบฉลาม,บันไดข้างที่สามารถใช้งานได้จริง และเป็นชิ้นส่วนกันกระแทกตัวถังด้านข้างด้วยในคราวเดียว, และยังมีล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขนาด 265/60 R18 ติดมาด้วย โดยล้ออะไหล่เองก็จะเป็นล้อแบบเดียวกัน
และเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเสริมอุปกรณ์ภายนอกอีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว ในทั้ง 2 รุ่นย่อย พร้อมระบบจดจำตำแหน่งอัจฉริยะและระบบปรับระดับอัตโนมัติขณะถอยหลัง ที่มีเฉพาะในรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD เสริมด้วยระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าอัตโนมัติ, และฝาท้ายอัจฉริยะ ที่สามารถเปิด-ปิดได้ถึง 2 รูปแบบ ร่วมกับระบบผ่อนแรง เฉพาะรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD ควบคุมได้ง่าย ๆ เพียงสัมผัสแค่ปลายนิ้ว รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ
ภายในห้องโดยสาร ใช้คอนโซลและพวงมาลัยที่ได้งานออกแบบแรงบันดาลใจเดียวกันกับ TANK 500 เพียงแต่มีการปรับลดชิ้นส่วนวิบวับแวววาวให้น้อยลง เพื่อเพิ่มความน่าใช้ตามฉบับสายลุยมากขึ้น แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังคงจัดเต็มด้วยลูกเล่นหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น
- ไฟตกแต่งห้องโดยสาร (Ambient light) เพิ่มสีสันในห้องโดยสารให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยสีสันแห่งความสนุก ด้วยไฟหลากสีและเป็นจังหวะคลื่นน้ำเฉพาะรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมแป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle shift)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง
- สวิตซ์ควบคุมโหมดการขับขี่
- คันเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter
- กุญแจ Smart Key และระบบ Push start system
- กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ เฉพาะรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD
- บังแดดพร้อมกระจกและไฟแต่งหน้า
- เบาะนั่งภายในห้องโดยสารใช้วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์ ในรุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO ที่สามารถปรับเบาะคนขับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD เป็นเบาะหนังแท้มาพร้อมกับเบาะคนขับที่ปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง และระบบบันทึกตำแหน่งพร้อมระบบ welcome seat ควบคู่ไปกับระบบระบายอากาศ สำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และระบบนวดไฟฟ้า
- เบาะนั่งแถวที่ 2 ของ GWM POER SAHAR HEV ทุกรุ่นได้เบาะหลังปรับระดับ 2 ทิศทาง และพนักพิงเบาะพับได้แบบ 40:20:40 ที่มาพร้อมกับที่พักแขนตอนกลาง พร้อมที่วางแก้ว
- ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง และช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ พร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง (12V) และสำหรับรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD ยังมีช่องจ่ายไฟสำรอง (220V) ใส่มาให้ด้วย
- กระจกไฟฟ้า 4 บาน พร้อมระบบ One-Touch
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เฉพาะรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติด้านหน้าแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ N95
ในส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์ตัวรถ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth, MP5, Online Music และ Online Radio ให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินทั้งการรับชมและการรับฟังได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบบนำทาง ในตัว, ระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command), และยังรองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์แบบไร้สาย (FOTA) เพื่อให้ระบบควบคุมต่าง ๆ ภายในรถยนต์สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและง่ายดาย
โดยตัวจอกลางนี้ จะทำงานร่วมกันลำโพง จำนวน 6 ตำแหน่ง สำหรับรุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO และลำโพง Infinity 10 ตำแหน่ง สำหรับรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD
หากไม่พอ GWM POER SAHAR HEV ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับการเชื่อมต่อและการควบคุมรถจากระยะทางไกลผ่านแอปพลิเคชันที่พร้อมมอบความสะดวกสบายขั้นสุดให้กับผู้ขับขี่ในทุกมิติ ได้แก่ ระบบตรวจสอบสถานะประตูและหน้าต่าง ระบบปรับอากาศ
และยังมีระบบตรวจสอบระยะทางทั้งหมด ระยะทางวิ่งคงเหลือ ปริมาณน้ำมัน สถานะอุณหภูมิและแรงดันลมยาง ระบบช่วยเตือนเมื่อสถานะประตูและหน้าต่างห้องโดยสารผิดปกติ ระบบช่วยเตือนเมื่อแบตเตอรี่ 12V ต่ำ ระบบช่วยเตือนเมื่อปริมาณน้ำมันต่ำ ระบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์ ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ ระบบล็อกและปลดล็อกประตู ระบบปิดกระจก ระบบเปิด-ปิดระบบปรับอากาศ
และหากเป็นรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD ยังมีระบบตรวจสอบสถานะเบาะระบายอากาศ และระบบเปิด-ปิดเบาะระบายอากาศอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะถูกแสดงผลหน้าจอแสดงข้อมูลตัวรถขนาด 12.3 นิ้ว เท่ากับชุดจออินโฟเทนเมนท์ตรงกลาง
ด้านระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทาง GWM ยังจัดเต็มด้วยฟังก์ชันระบบความปลอดภัยมากกว่า 29 รายการ ในตัวรถทั้ง 2 รุ่นย่อย ให้ทุกเส้นทางของผู้ขับขี่และผู้โดยสารปลอดภัยและมั่นใจสูงสุด ได้แก่
- ถุุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลม
- ระบบติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ Call Center
- ระบบติดต่อเบอร์ฉุกเฉิน
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน และลงทางลาดชัน (HSA / HDC)
- ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
- ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW)
- เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและหลัง
- ระบบช่วยเตือนสัญลักษณ์จราจร และการแจ้งเตือนการขับรถเร็วเกินกำหนด
- ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ระบบล็อกป้องกันเด็ก
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอีก 3 ระบบสำหรับรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD โดยเฉพาะ ได้แก่
- ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP)
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB)
GWM POER SAHAR HEV มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร เครื่องยนต์เบนซินพร้อมระบบเทอร์โบแปรผันที่มอบพละกำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ หรือ 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มอบพละกำลังสูงสุด 78 กิโลวัตต์ หรือ 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร ร่วมกันส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9HAT) ไปยังชุดล้อคู่หลัง ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า (Electric Differential Lock) เฉพาะด้านหลัง
หรือหากเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็จะได้ระบบขับเคลื่อน AWD Dual Speed ซึ่งเป็นระบบการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูงเหมาะสำหรับการขับขี่ในทุกสภาพพื้นผิวได้อย่างเต็มรูปแบบ และระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า (Electric Differential Lock) ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
โดยในรุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO (รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ) มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด
และรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD ที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกถึง 5 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4L) และโหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง (4H) นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมกับระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) อีกด้วย
ระบบช่วงล่างที่มาพร้อมกับ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบดับเบิลวิชโบน (Double Wishbones) และระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบ ใน GWM POER SAHAR HEV ทั้ง 2 รุ่น
นอกจากนี้แล้ว ยังมีระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่จะช่วยให้ทุกการขับขี่ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามความเร็ว รวมถึง โหมดช่วยผ่อนแรงพวงมาลัย ที่ให้มาถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดเบา โหมดสบาย และโหมดสปอร์ต ส่วนระบบเบรกหน้าและหลัง ก็เป็นแบบดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อนทั้งหมด ที่ช่วยให้สามารถระบายความร้อนและระบายน้ำได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถตอบสนองต่อการหยุดรถได้ดีอีกด้วย
โดย GWM POER SAHAR HEV ที่วางจำหน่ายในไทยทั้ง 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO และรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD จะมาพร้อมกับ 3 เฉดสีตัวถังภายนอกให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ สีขาว (Hamilton White) เทา (Ayers Gray) และสีดำ (Sun Black)
ส่วนกำหนดการประกาศราคา และการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะเกิดขึ้นในช่วงของการจัดงาน Motor Expo 2024 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้