ก่อนงาน Beijing Auto Show 2024 จะเริ่มขึ้นทาง GWM เปิดตัวรุ่นใหม่จากตระกูล TANK 300 ด้วย GWM TANK 300 Hi4-T
ด้วยหน้าตาไม่ต่างจาก TANK 300 ตั้งแต่กระจังหน้าขนาดใหญ่แนวนนอน 3 เส้น สีดำ Piano Black พร้อมโลโก้ TANK ไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมพร้อมไฟ LED Daytime หลังคาซันรูฟแบบเปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
พร้อมราวหลังคาเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน และเสาอากาศ แบบ shark fin ที่เปิดประตู กระจกมองข้างตกแต่งสีเข้มทั้งหมดด้านท้ายดีไซน์ตั้งตรงพร้อมฝาท้ายขนาดใหญ่ห้อยยางอะไหล่ไว้ดูมีเอกลักษณ์ดีตามสไตล์ออฟโรดและไฟท้าย Vertical LED แนวตั้งในร่าง 5 ประตู คิ้วขอบล้อสีดำดุดันด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และด้วยการเพิ่มขนาดความจุแบตเตอรี่ทำให้ตัวรถน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 2,645 กิโลกรัม
ภายในหรู ทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบาย ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง NAPPA leather สีขาว ตัดเย็บประณีต คู่หน้าปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 8 ทิศทางและคนนั่งปรับ 4 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากรถเบาะหลังตอนที่สองพับได้ 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของมากถึง 1,635 ลิตร เมื่อพับเบาะ
เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และ Ionizer ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า/หลัง และสำหรับกล้องบันทึกภาพ ช่องจ่ายไฟสำรอง 220V แบบพร้อมเต้ารับสายไฟไฟสร้างบรรยากาศภายในมากถึง 64 สี Ambient light กุญแจ Smart Key และ Push Start เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหากุญแจ
ขุมพลังขนาด 2.0 ลิตร เบนซินเทอร์โบ รหัส E20NB ให้กำลัง 245 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า P2 กำลังสูงสุด 164 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตรเมื่อทำงานร่วมกันกับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 37.1 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร
วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จในโหมดไฟฟ้าล้วน 105 กิโลเมตร และวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำงาน 860 กิโลเมตร สามารถชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 24 นาทีและยังชาร์จกระแสสลับ AC ได้ รองรับ V2L (Vehicle-to-load) ถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของรถไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ รองรับการจ่ายโหลดสูงสุด 3.3 kW จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด Electronic Shifter
พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ สามารถสลับโหมดได้ 3 โหมด ได้แก่ ขับเคลื่อนสองล้อ (2H สอดคล้องกับโหมดประหยัด) ขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (AWD) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วต่ำ (4L) พร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 7 รูปแบบ อาทิ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทรายและโหมด 4L รองรับการลากจูงสูงสุด 2,000 กิโลกรัมด้วยการพ่วงลาก และ 750 กิโลกรัมกับการลากจูงทั่วไป เปิดขายจีน 22 เมษายน พร้อมโชว์ตัวที่งาน Auto China 2024 จำนวนจำกัดเพียง 3,000 คัน