Home » GWM TANK 700 Hi4-T ขุมกำลังปลั๊กอิน-ไฮบริด 523 แรงม้า ประหยัด 33.6 กม/ล. เตรียมโผล่ไทย สิ้นเดือนนี้
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

GWM TANK 700 Hi4-T ขุมกำลังปลั๊กอิน-ไฮบริด 523 แรงม้า ประหยัด 33.6 กม/ล. เตรียมโผล่ไทย สิ้นเดือนนี้

GWM Tank 700 Hi4-T คือรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่จากค่ายยักษ์ใหญ่เมืองจีน Great Wall Motor ที่ถูกปล่อยทีเซอร์ออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปี และตอนนี้ มันก็พร้อมแล้วที่จะถูกนำมาโชว์ตัวให้ชาวไทยได้สัมผัสคันจริงกัน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยสเปคเด่นของ GWM TANK 700 Hi4-T รถออฟโรดรุ่นล่าสุดสู่สายตาชาวโลก ประเดิมด้วยความทรงพลังของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Hi4-T ที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับทุกเส้นทางมากถึง 12 โหมด

ขณะที่ขุมกำลังของมันเอง ก็เป็นบล็อคที่ชาวไทยคุ้นเคยกันอยู่แล้ว นั่นคือ เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 360.4 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 163.1 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร

แต่ด้วยลักษณะการทำงานร่วมกันในระบบ Parallel Hybrid จึงทำให้มันสามารถทำกำลังรวมกันสุทธิได้ที่ 523.5 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอีก 800 นิวตันเมตร พร้อมเคลมอัตราสิ้นเปลืองที่ 33.6 กิโลเมตร/ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC แต่ถึงกระนั้นมันก็พกเอาถังน้ำมันที่ใหญ่ถึง 85 ลิตร ติดตั้งมาให้ด้วย

เหนือกว่ารุ่นน้อง คือการที่ตัวรถรุ่นนี้ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 37.1 kWh จึงทำให้มันสามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ ด้วยระยะทางการวิ่งไกลสุด 90 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTC และสามารถชาร์จไฟกลับในโหมด DC Charge จากปริมาณแบตฯ 30%-80% ได้ภายในเวลา 24 นาที พร้อมรองรับความสามารถในการจ่ายไฟแบบ V2L ด้วยกำลังไฟสูงสุด 3,300 วัตต์

ยิ่งไปกว่านั้น GWM TANK 700 Hi4-T มาพร้อมกับความโดดเด่นของดีไซน์ภายนอก ซึ่งแปลกจากไปจากเหล่าน้องๆด้วยกลิ่นอายและเส้นสายที่ดูทันสมัยตรงยุคตั้งแต่หัวจรดท้าย ไม่ใช่เส้นสายที่เน้นความเป็นลูกผสมโมเดิร์นคลาสสิคแบบที่เราคุ้นเคย โดยมีเพียงการห้อยยางอะไหล่(พร้อมฝาครอบ)ไว้ทางด้านหลัง เท่านั้น ที่เป็นตัวบ่งบอกว่ามันยังคงเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่มาจากตระกูล Tank อยู่

และด้วยความเป็นพี่ใหญ่ของแบรนด์ ดังนั้น มันจึงมีขนาดตัวถังที่ใหญ่ถึง 5,090 มิลลิเมตร ในด้านยาว, 2,061 มิลลิเมตร ในด้านกว้าง, 1,952 มิลลิเมตร ในด้านสูง, และระยะฐานล้อที่ยาวถึง 3,000 มิลลิเมตร พร้อมความกว้างฐานล้อ 1,742 มิลลิเมตร กับ 1,757 มิลลิเมตร ตามลำดับคู่หน้า-คู่หลัง

นอกจากนี้ ด้วยความเป็นรถอเนกประสงค์สไตล์ออฟโรดเดอร์ มันจึงการติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถแทบทั้งคัน ไม่ว่าจะใต้ห้องเครื่อง, ใต้ชุดเกียร์, และอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าใต้ท้องรถจะถูกขูดเอาง่ายๆ เพราะมันมีความสูงใต้ท้องรถที่มากถึง 249 มิลลิเมตร, มุมปะทะ 32 องศา, และมุมจากอีก 32 องศาเช่นกัน พร้อมความสามารถในการลุยน้ำลึกได้มากสุดอีก 900 มิลลิเมตร

หากเท่านั้นยังไม่พอ ในรุ่นท็อป ที่มาพร้อมกับระบบช่วงล่างถุงลม ซึ่งสามารถปรับความสูง – ต่ำของตัวรถ ได้ด้วยระบบไฟฟ้า ยังมาพร้อมกับความสูงใต้ท้องรถที่ขยับขึ้นไปเป็น 255 – 285 มิลลิเมตร, มุมปะทะ 32 – 37.8 องศา, และมุมจากอีก 33.5 – 37.6 องศา พร้อมความสามารถในการลุยน้ำลึกได้มากสุดอีก 900 – 970 มิลลิเมตร

โดยหากว่ากันที่ระบบกลไกของช่วงล่างติดรถที่ให้มา หลักๆแล้ว มันก็จะใช้ระบบช่วงล่างแบบอิสระ (ปีกนกคู่) ทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบดิสก์เบรก ทั้ง 4 ล้อ เช่นกัน ที่ขาดไม่ได้คือระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่สามารถปรับโหมดความหนักในการทำงานได้ ส่วนชุดล้อที่ใช้ ก็จะเป็นขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยาง 275/60 R20 ในรุ่นเริ่มต้น

และหากเป็นรุ่นท็อป ก็จะได้ระบบช่วงล่างถุงลม พร้อมโช้กอัพปรับไฟฟ้า ที่พวกมันต่างสามารถทำงานร่วมกันในแบบ Semi-Active เพื่อแปรผันความแข็ง ความหนืดในการยืดยุบตัว ได้ตามสภาพถนน กับโหมดการขับขี่ที่ลูกค้าเลือกใช้ แถมยังมีระบบเหล็กกันโคลงที่สามารถปลดการทำงานด้วยระบบไฟฟ้าใส่มาให้ด้วย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้ตัวของช่วงล่างยามบุกตะลุยที่ตัวรถต้องปีนป่ายอุปสรรคต่างๆ และสุดท้ายคือการเพิ่มออพชันล้อขอบ 22 นิ้ว ขนาด 275/50 R22 ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อได้

ภายใน GWM TANK 700 Hi4-T ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็นรถออฟโรดสุดหรูขั้นสุด โดดเด่นด้วยการผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดและความสะดวกสบายเด่นๆมากมาย เริ่มจาก กระจกหน้ากันแสง UV, กระจกอคูสติกกลาสที่ประตูทั้ง 4 บาน, หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ, ระบบแอร์ 3 โซน พร้อมกรอง PM 2.5 และ เบาะนั่ง Light Cloud มุมกว้างพิเศษ พร้อมระบบนวด ระบบปรับอากาศ ระบบอุ่น ระบบปรับไฟฟ้า หมอนรองน่อง แตกต่างกันไปตามตำแหน่งผู้นั่ง สร้างความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ราวกับนั่งบนปุยเมฆ เป็นต้น

ด้านระบบอินโฟเทนเมนท์เองก็จัดเต็มด้วย ชุดจอทัชสกรีนแนวนอนขนาด 16.2 นิ้ว โดดเด่นเหนือกว่าใครด้วยระบบเสียงจาก Harman Kardon ที่มาพร้อมลำโพง 16 ตัวที่สร้างความละเอียดเสียงระดับ Hi-Fi (High Fidelity) ขณะที่ชุดจอมาตรวัดเอง ก็เป็นจอ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว และยังมีจอ HUD ทางด้านบน กับจอนาฬิกาตรงกลางคอนโซลหน้าขนาด 1.39 นิ้ว กับจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ติดตั้งไว้บริเวณที่วางแขนกลาง ขนาด 7.0 นิ้ว ใส่มาให้อีก

ฝั่งระบบความปลอดภัยและระบบอำนวยความสะดวกในการขับขี่ของตัวรถ ก็ให้มาจัดเต็มมากที่สุด เท่าที่คุณจะนึกออกว่ารถยนต์ยุคปัจจุบันจากสัญชาติจีนจะมีให้ได้ ทั้ง ABS, EBD, TCS, ESP, HBA, IBC, SCM, RMI, ACC, AEB, ICA, TJA, LKA, LKC, ELK, TSR, SAS, FCW, RCW, LCA, DOW, BSD, LDW, RCTA, FCTA, TAB และอื่นๆอีกมากมาย แม้กระทั่งกล่องบันทึกข้อมูลตัวรถ ยามเกิดอุบัติเหตุก็ยังมีมาให้

ท้ายสุดคือเรื่องของราคาวางจำหน่าย ซึ่งในเบื้องต้น GWM TANK 700 Hi4-T จะมีรุ่นย่อยให้ลูกค้าชาวจีนได้เลือกซื้อ 2 เกรดด้วยกัน นั่นคือ

  • GWM TANK 700 Hi4-T – Extreme Edition : 428,000 หยวน หรือราวๆ 2.12 ล้านบาท
  • GWM TANK 700 Hi4-T – Arctic Edition : 468,000 หยวน หรือราวๆ 2.32 ล้านบาท

ส่วนการนำตัวรถมาจัดแสดงในประเทศไทยครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นการนำตัวรถมาเพื่อเก็บข้อมูลความน่าสนใจของชาวไทยต่อตัวรถก่อนเท่านั้น ซึ่งหากกระแสตอบรับออกมาดี ก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นร่างขายจริงของมัน ภายในช่วงไม่เกินสิ้นปีหน้า

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.