ท่ามกลางกระแสความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ในตลาดปัจจุบัน ฮาวาล แบรนดืรรถยนต์อเนรกประสงค์สายตรงจากจีน เรียกว่า เป็นแบรนด์ที่เข้ามาอยู่ในใจคนไทยจำนวนมาก หนึ่งในรุ่นที่ดูดีมีสไตล์ ออพชั่นแน่น ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ ก็มี Haval Jolion Hybrid รวมอยู่ด้วย แม้ว่าจะทำตลาดในไทย มานาน หากหลายคน กลับมองข้ามมันไปอย่างน่าเสียดาย

Haval Jolion Hybrid เริ่มทำตลาดในไทย ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2564 และ ทันทีที่เผยหน้าตา ออกมาก็ได้รับความสนใจไม่น้อยในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์น้องเล็ก ของ พี่ชาย อย่าง Haval H6 Hybrid ที่ออกมาเปิดแบรนด์ไปก่อนหน้านี้

ตัวรถ ถูกนำเสนอ ให้อยู่ในกลุ่ม Entry Compact Crossover โดดเด่น ด้วยตัวรถขนาดใหญ่ มีความยาว 4,472 มม.​กว้าง 1,841 มม.​และสูง 1,619 มม. ระยะฐานล้อ 2,700 มม. รุ่น Tech ตัวเริ่มต้น เปิดราคาที่ 879,000 บาท และ สูงสุดในรุ่น Ultra อยู่ที่ 999,000 บาท

เป็นรถกลุ่มนี้รุ่นแรกจากค่ายจีน และทำราคาไม่ข้าม 1 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ ค่ายญี่ปุ่น ทำราคารถกลุ่มเดียวกัน ป้วนเปี้ยนที่ 1.1 จนถึง 1.3 ล้าน ทำให้ Haval jolion ดำรงตำแหน่ง รถกลุ่มนี้ที่ถูกที่สุดในตลาด และเทียบกับค่ายจีน รายอื่น คุรได้รถที่มีขนาดใหญ่กว่าพอสมควร

โดยจุดเด่นที่เราพบ ตั้งแต่ช่วงการลองขับ ตอนเปิดตัว คือ พื้นที่ตอนหลังค่อนข้างจะนั่งสบาย ด้วยฐานล้อที่ยาว ประกอบกับความยาวลำตัว ค่อนข้างมากเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน ไม่ว่าจะ Toyota corolla Cross, Mazda CX-30 และ Subaru XV รวมถึงพื้นที่ห้องสัมภาระ ยังค่อนข้างใหญ่ไม่แพ้กัน ด้วยงานออกแบบที่มีความเป็นกึ่งทรงกล่อง ทำให้ รถมีความโปร่ง แม้แต่คนตัวใหญ่ก้นั่งสบาย

ในเรื่องของฟังชั่นตัวรถ ก็เรียกว่าจัดเต็มไม่แพ้พี่ใหญ่ โดยเฉพาะในรุ่น ultra ราคา 999,000 บาท แต่คุณได้ ระบบความปลอดภัยมาแน่นคัน อาทิ

• ระบบ Adaptive Cruise Control
• ระบบเตือนและป้องกันการชนทางด้านหน้า
• ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติในทางร่วมทางแยก
• ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน
• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

และมีอื่นๆ อีกมามาย ที่คุณสามารถหาซื้อได้ ในรถคันนี้ ในรุ่น Ultra ที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่ราคาที่แพงจนเกินไปนัก สำหรับคนทั่วไป

เหตุใด คนเมิน

แม้ว่าจะมีดีมากมายในแบบที่มันเป็น แต่ Haval Jolion กลับถูกคนที่มองหารถอเนกประสงค์จำนวนไม่น้อย หมางเมิน และำม่เลือกมาเป็นคู่ใจคันใหม่ที่บ้าน ทั้งที่รถก็มีดีในแบบที่มันเป้น

ประเด้นหนึ่งที่มีการพูดกันมายาวนาน คือเรื่องพละกำลังขับหลายคนกังขา ว่ามันมีกำลังขับรวมถึง 190 PS ตามที่ประกาศออกมา ทว่า ตอนที่สื่อมวลชนไปเทส มีบางคนออกมาบอกว่า มันน่าจะไม่ถึง และครหาว่า จากการทดสอบของตน ในช่วงระหว่างการขับทดสอบ พบว่า มีอัตราเร่งอยู่ที่ 15 วินาทีเท่านั้น

แต่จากการทดลองขับของเรา เมื่อไม่นานมานี้ท่ามกลาง สภาวะการทดสอบมาตรฐานบนถนนลาดยาง เราพบง่า Haval Jolion มีตัวเลข ไม่ได้ต่างจากรถคู่แข่ง สักเท่าไรนัก

จากการนั่ง 2 คน เปิดแอร์ขับในโหมดปกติ มันมีอัตราเร่ง อยู่ที่เฉลี่ย อยู่ที่ 11 วินาที โดยประมาณ และ อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม.​มีอัตราเร่งราวๆ 10. 4 วินาทีกลางๆ เท่านั้น ซึ่งไม่ได้แย่ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ในตลาด เพียงแต่ความเร็วสูงสุดของรถรุ่นนี้ถูกจำกัดที่ 160 ก.ม./ช.ม. เท่านั้น มันไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณไม่ใช่สายซิ่ง เน้นขับรถเร็ว เป็นอาจิน กับรถอเนกประสงค์ทั่วๆไป ถือว่า ค่อนข้างพอเพียงต่อการใช้งาน สมเหตุสมผล ไม่ได้ มากหรือนhอยจนเกินงาม

ในส่วนเรื่องของอัตราประหยัด รถคันนี้จากการขับ โดยมีผู้โดยสาร 3 คน พร้อมสัมภาระ ด้วยความเร็ว 90-120 ก.ม./ช.ม. ตามแต่สภาพ การจราจร ได้อัตราประหยัดอยู่ที่ 14.6 ก.ม./ลิตร (ขับในโหมดมาตรฐาน) ถือว่าไม่ได้กินมากจนเกินไป หากก็ยอมรับว่า มันอาจไม่ได้มีความประหยัดอย่างที่หลายคนคาดคิดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้คำว่าไฮบริด ในตัวรถ ทำให้ คนส่วนใหญ่คาดหวัง ว่ามันจะประหยัดน้ำมันมากกว่า

โปรฯ ใหม่ เพิ่มความคุ้มค่ามากกว่าที่เคย

ด้วยการเป็นรถยนต์ที่อยากขาย ผิดกับพี่ชายของมัน ที่อยู่ในระดับขายได้ดีเรื่อยๆ ทำให้ Great Wall Motor ตัดสินใจ ให้โแรโมชั่นไม้ตาย เอาใจลูกค้า ที่สนใจ Haval Jolion โดยล่าสุด ส่งโปรโมชั่น ดังนี้

• ส่วนลดอั่งเปา 10,000 บาท
• ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน (เมื่อดาวน์ 25%)
• ฟรีประกันภัยชั้น 1 (ปีแรก)
• ฟรี ฟิล์มกรองแสง ลามิน่า รอบคัน (มูลค่า 8,200 บาท)
• บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี
• ฟรีค่าแรงและ ค่าอะไหล่ นาน 5 ปี

โดยโปรโมชั่นดังกล่า ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 31 มกราคม 2566

นั่นทำให้ ราคารถ เมื่อรับส่วนลด ยิ่งถูกลงไปอีก โดย จะมีราคาจำหน่ายตามโปรโมชั่นดังนี้

• รุ่น Tech ราคา 869,000 บาท
• รุ่น Pro ราคา 929,000 บาท
• รุ่น Ultra ราคา 989,000 บาท

นั่น ทำให้ Haval Jolion ยิ่งมีความเป็นมมิตร สบาย ต่อเงินในกระเป๋ามากขึ้น ถ้าคุณมองหา เพียงรถใช้งาน สักคัน สำหรับใครครอบครัว และราคานี้เทียบกับ รถที่มีราคาไล่กันจากค่าย ญี่ปุ่น เช่น กลุ่ม MPV คุณ ก็ได้ รถที่มีขนาดใหญ่กว่ามากพอสมควร และตอบสนองในการใช้งานได้มากกว่า

Haval Jolion Hybrid มาวันนี้หลายคน อาจจะลืมไปแล้ว ว่ามันเป็นรถที่มีดีในแบบที่มันเป็น รถคันนี้อาจไม่ได้โดเด่นในแง่สมรรถนะการขับขี่ แบบที่นักรีวิวส่วนใหญ่ มองว่า มันควรจะเป็น หากกับการซื้อรถสักคัน มาใช้งานทั่วๆไป ในราคาสบายกระเป๋า และมีฟังชั่นครบ ก็นับว่าตอบโจทย์ได้ดี ไม่น้อย