ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสรถยนต์   MG   ถือว่าก้าวขึ้นมาอยู่ในใจลูกค้า และในบรรดารถอเนกประสงค์ของพวกเขา ก็มี  MG GS  ที่พรั่งพร้อมสมรรถนะ ซึ่งในอีกไม่นานนี้ มันจะถูกปลดระวางแล้วแทนที่ด้วยรุ่นใหม่   MG HS

รถอเนกประสงค์   MG HS  เป็นรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวทำตลาดเมื่อปีกลายในประเทศจีน ด้วยเป้าหมายในการยกระดับความหรูหรารถยนต์อเนกประสงค์ และสมรรถนะให้ก้าวไปอีกขั้น บรรจุทั้งความทันสมัย ความหรูหรา ฟังชั่น ตลอดจนสมรรถนะการขับขี่ไว้อย่างครบเครื่องครบครัน จนเป็นรถที่ไม่ควรมองข้ามไปเลย

ตัวรถเปิดตัวในงานแสดงรถยนต์ที่เมืองเชิงตู เมื่อเดือนกันยายน ปีกลาย (2018) ด้วยทรวดทรงการออกแบบใหม่ของทาง   MG  โดยเฉพาะกระจังหน้าไดมอนด์ขนาดใหญ่ มาพร้อมไฟหน้าโฉบเฮี่ยม และไฟ   Day Time Running Light   เด่นมาแต่ไกล ที่เรียกว่า  London Eyes   ส่วนด้านท้ายมุ่งเน้นภาพลักษณ์ความสปอร์ตครบเครื่อง แบรนด์มีเป้าหมายสำคัญกับผู้ใช้รถที่มีความเป็นวัยรุ่นมองหารถที่มีความสปอร์ตเป็นทุนเดิม

ตัวรถ  MG HS   ใหม่ มีขนาดความยาว 4,574 มม. กว้าง 1,876 มม. และ สูง 1,664 มม. มีระยะฐานล้อ 2,760 มม. มันจัดอยู่ในกลุ่มพิกัด   Compact  SUV   ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ รถอเนกประสงค์ขนาดกลาง

ความโดดเด่นสำคัญที่ทำให้รถรุ้นนี้กลายเป็น Talk of the Town  แดนมังกร เมื่อปีกลาย หนีไม่พ้นภายในห้องโดยสารที่มาพร้อมความงามสง่าหรูหรา ตอบโจทย์อย่างครยเครื่อง โดยเฉพาะการตบแต่งภายในเป็นสีแดง และ หน้าจอเรือนไมลืต่างๆ เปลี่ยนมาเป็นชุดจอดิจิตอล ขนาด 12.3 นิ้ว เรียกว่าโดนใจคนรุ่นใหม่ไม่น้อย ระบบเครื่องเสียงภายในรถเป็นจอสัมผัส ขนาด 10.3 นิ้ว

การออกแบบสะท้อนภาพไปยังทางรถยุโรป เนื่องจากได้กลิ่นอายจากแบรนด์ Roewe เข้ามาช่วยเพิ่มความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ได้พวงมาลัยทรงสปอร์ต แป้น  Paddle Shift พ่วงมาด้วย

ทางด้านเครื่องยนต์   MG HS   เวอร์ชั่นขายในจีน มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ทุกรุ่น  และจากความนิยมเดิมในตลาด เชื่อว่า ทางเอ็มจี น่าจะแนะนำเครื่องยนต์ทุกรุ่นเข้าสู่ตลาดด้วยเช่นกัน

เครื่องยนต์บล็อกแรกที่คาดว่าจะเข้ามาทำตลาด น่าจะเป็นขุมพลัง เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 169  PS สูงสุดที่ 5,600 รอบต่อนาที ทำแรงบิดสูงสุด 275 นิวตันเมตร ระนาบต่อเนื่องตั้งแต่ 1,750 -4,000 รอบต่อนาที ใช้เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 สปีด สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 190 ก.ม./ช.ม.

แต่ถ้าคิดว่านั่น ยังไม่น่าพอใจ ทาง   MG   ยังมีเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ งวดนี้ปรับกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 231  PS   สูงสุดที่  5,300 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ระนาบต่อเนื่อง ตั้งแต่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที ใช้เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 สปีด ทำความเร็วสูงสุด 210 ก.ม./ช.ม.

นอกจากการออกแบบ และสมรรถนะในการขับขี่แล้ว งวดนี้ทางเอ็มจี ยังแนะนำระบบ   MG Pilot  แพ็คเกจความปลอดภัยเข้ามาในรถรุ่นนี้ด้วย อาทิ ระบบเตือนหลุดเลน , ระบบเตือนมุมอับสายตา และ ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลังออกจากซอง

สำหรับบ้านเรา เอ็มจี เอชเอส  เชื่อวา่าจะเปิดตัวภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ก่อนไตรมาส 4 ส่วนบ้านเราจะมีออพชั่นอย่างไรบ้าง ต้องติดตามให้ดี