ผ่านไปเกือบ 1 ปีเต็ม หลังการเผยโฉมต้นแบบ ในที่สุด Honda Ye S7 ก็ได้พร้อมวางขายอย่างเป็นทางการสักทีด้วยราคาเริ่มต้นในประเทศจีนที่ 259,900 หยวน หรือราวๆ 1,210,000 บาท

Honda Ye S7 หรือชื่อขายจริงอย่างเป็นทางการ Honda S7 (ตัดคำว่า Ye ออกไป) มาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อมันโดยเฉพาะ และได้แบตเตอรี่ขนาด 89.8 kWh ซึ่งรุ่นเริ่มต้นจะรองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 650 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC โดยทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าลูกเดี่ยวกำลังสูงสุด 272 PS สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หลัง
ส่วนในรุ่น Performance ก็จะได้รับการติดตั้งชุดมอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หลัง กำลังสูงสุด 204 แรงม้า เข้ามาเพิ่ม ทำให้พละกำลังสูงสุดของขุมกำลังทั้งหมด มีตัวเลขสุทธิที่ 476 PS และทำให้ระยะทางในการใช้งานสูงสุดต่อชาร์จลดลงมาเหลือ 620 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC
ด้านมิติตัวรถ มีตัวเลข 4,750 มิลลิเมตร ในด้านยาว, 1,930 มิลลิเมตร ในด้านกว้าง, และ 1,625 มิลลิเมตร ในด้านสูง กับระยะฐานล้ออีก 2,930 มิลลิเมตร และความสูงใต้ท้องรถอีก 193 มิลลิเมตร ซึ่งเท่ากับว่ามันเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีขนาดตัวใหญ่กว่า Honda CR-V ที่เรารู้จักกันขึ้นมาอีกเซกเมนท์นั่นเอง
นอกนั้นในส่วนงานออกแบบ ตัวรถ S7 ก็มาพร้อมกับตัวถังแบบรถยนต์ครอสโอเวอร์ท้ายลาดนิดๆ และงานออกแบบรอบคัน ก็จะเน้นเส้นสายที่มีความแหลมคมตั้งแต่หัวจรดท้ายเป็นหลัก แต่ยังเสริมความหล่อดุดันด้วยชุดขอบซุ้มล้อแบบ 6 เหลี่ยม ซึ่งมีให้เห็นไม่บ่อยนักในรถยนต์ยุคปัจจุบัน และยังเพิ่มความทันสมัยด้วยกล้องมองข้าง เข้ามาทำหน้าที่แทนกระจกมองข้างแบบดั้งเดิม
นอกจากนี้ยังใช้ไฟหน้าทรงบูมเมอแรง ที่ดูดุดัน เช่นเดียวกับกันชนหน้าที่ดูยื่นมาด้านหน้า และบึกบึน แม้แต่ไฟท้ายเอง ก็ยังเป็นแบบขยักติดตั้งแนวเดียวกับกรอบฝาท้ายด้านข้างและเสริมด้วยแถบไฟเบรกแบบ Cross Tail Light ใต้แนวกระจกฝาท้ายเพื่อความโดดเด่น
ภายในห้องโดยสาร เน้นการออกแบบด้วยรูปทรงที่เรียบง่าย สะอาดตา แต่ยังคงโดดเด่นด้วยจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว ตรงกลาง และมีจอขนาด 9.9 นิ้ว สำหรับแสดงผลข้อมูลตัวรถขณะขับขี่ติดตั้งออยู่บนคอนโซลหน้าแบบกึ่งลอยตัว และที่ตัวคอนโซลยังดูเหมือนจะมีการฝังแผงไฟ Ambient Light เอาไว้รอบด้าน และยังมีชุดพวงมาลัยแบบใหม่ แถมยังใช้โลโก้แบรนด์แบบใหม่ เป็นตัวอักษรชื่อแบรนด์แบบเต็มๆ ไม่ได้ใช้โลโก้ H Mark อีกต่อไป
ขณะที่ลูกเล่นที่เสริมความสะดวกสบาย ก็มีทั้ง ชุดลำโพง 16 ตำแหน่งจาก BOSE ชุดคอนโซลกลางแบบ Dual Layer พร้อมถาด Wireless Charge และช่วงเก็บของขนาดใหญ่ รวมถึง หลังคากระจก Panoramic Glass Roof ขนาดใหญ่ตลอดแนวหลังคาตัวรถ แค่มีคานกั้นตรงกลางช่วงเสา B เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
ส่วนโอกาสที่ตัวรถจะถูกนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทย ต้องถือว่ามีน้อยมาก เนื่องจากโดยแผนดั้งเดิมแล้ว ทำค่ายมีแผนที่จะทำตลาดรถรุ่นนี้แค่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้นนั่นเอง