Lynk & Co อาจเป็นแบรนด์ที่ชาวไทยหลายคนพึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา ทางแบรนด์กลับมีรถยนต์โมเดลน่าสนใจหลายรุ่นด้วยกัน และล่าสุดก็คือ Lynk & Co 900 อเนกประสงค์ PHEV หน้าใหม่ ที่มาพร้อมกับหัวใจซึ่งให้กำลังสูงสุดมากกว่า 850 แรงม้า เลยทีเดียว

Lynk & Co 900 คือรถอเนกประสงค์โมเดลใหม่ล่าสุดที่ทางค่ายพึ่งเผยโฉมคันเต็มออกมา หลังจากที่มีการเผยภาพร่างโปรโตไทป์ไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น และจุดน่าสนใจคือการที่มันจะถูกวางตำแหน่งให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ระดับเรือธง หรือโมเดลสูงสุดของทางค่าย ที่มาพร้อมกับออพชันและสเป็คจัดเต็มที่สุดเท่าที่จะให้ได้

ด้วยเหตุผลนี้เอง จึงทำให้มันมาพร้อมกับขุมกำลัง PHEV ที่มีพละกำลังสูงไม่แพ้คู่แข่งร่วมคลาสใดๆ ต่อให้เป็นรุ่นล่างสุด ที่ใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ จับคู่กับขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 217.5 แรงม้า PS และล้อหลัง กำลังสูงสุด 313 แรงม้า PS ก็ยังมีพละกำลังรวมกันสูงสุดติดตัวมามากถึง 530 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 721 แรงม้า PS แล้ว

ส่วนรุ่นกลาง จะเปลี่ยนขุมกำลังเครื่องยนต์ข้างต้น ให้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ จับคู่ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สำหรับช่วยกันขับเคลื่อนคู่หลัง แบบเดียวกับรุ่นล่าง ทว่ามอเตอร์สำหรับช่วยขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้า ก็จะปรับลดกำลังลงมาเหลือ 167.2 แรงม้า PS แต่ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์ที่มากกว่า จึงทำให้พละกำลังรวมสูงสุดของมัน ขยับขึ้นมาเป็น 540 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 734 แรงม้า PS

ขณะที่รุ่นบนสุด ก็จะยังคงใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์ รวมถึงมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้าตัวเดิมกับรุ่นกลาง เว้นเพียงในส่วนของชุดมอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ดูเหมือนว่าทางค่ายจะไปเอามอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนล้อหน้าของตัวรถรุ่นล่างสุดที่มี กำลังสูงสุด 217.5 แรงม้า PS มาใช้แทน แต่เป็นการเอามาทีเดียวถึง 2 มอเตอร์ สำหรับแยกกันขับเคลื่อนชุดล้อคู่หลังระหว่างฝั่งซ้ายกับฝั่งขวา ทำให้คราวนี้พละกำลังรวมสูงสุดจากเครื่องยนต์เทอร์โบและมอเตอร์อีก 3 ตัว มีตัวเลขรวมกันมากถึงราวๆ 856.6 แรงม้า PS และช่วยให้รถสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 4 วินาที เท่านั้น

ด้านขนาดแบตเตอรี่ที่ติดรถมา ทางค่ายยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะทั้งขนาด, ความสามารถในการชาร์จไฟ หรือแม้แต่ระยะทางในการใช้งานสูงสุดต่อชาร์จ เมื่อรถต้องวิ่งด้วยโหมดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนก็ด้วย

ความจัดเต็มของตัวรถยังไม่หมดแค่นั้น เพราะภายในห้องโดยสารของตัวรถยังมาพร้อมกับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 30 นิ้ว ซึ่งกินพื้นที่ตั้งแต่คอนโซลกลาง และพาดยาวไปถึงฝั่งผู้โดยสาร แถมยังมีความคมชัดสูงถึง 6K ส่วนหน้าจอฝั่งผู้ขับจะมีขนาดเพียง 12.66 นิ้วเท่านั้น และมีจอ HUD เสริมทางด้านบนอีกทีหนึ่ง

ที่คอนโซลกลาง ยังมีการทำแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายออกมาอีก 2 แท่น, พวงมาลัยแบบ 2 ก้าน, ระบบไฟแวดล้อม, ที่วางแขนแบบลอยตัวที่แผงข้างประตู, และยังมีการติดตั้งชุดตู้เย็นด้านหลังคอนโซลกลางครึ่งล่าง พร้อมจอแสดงผลครึ่งบนเพื่อให้ผู้โดยสารตอนหลังใช้สั่งการระบบลูกเล่นต่างๆภายในตัวรถ และเหนือหลังคาบริเวณด้านหลังแนวเบาะนั่งคู่หน้า ยังมีจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 30 นิ้ว ความคมชัด 6K แบบเดียวกับที่ติดตั้งบนคอนโซลหน้า แต่คราวนี้จะติดตั้งเป็นแบบบานพับบนหลังคา ให้ผู้โดยสารตอนหลังใช้รับชมความบันเทิงอีก

นอกจากความสะดวกสบายที่ตัวเบาะโดยสารพร้อมหนังแนปป้าเจาะรูและมีระบบปรับอากาศในตัว รวมถึงมีลำโพงฝังที่หัวหมอนของชุดเบาะคู่หน้า ตัวรถยังมาพร้อมกับระยะฐานล้อที่ยาวถึง 3,160 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารเหลือเฟืออย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของพื้นที่วางขา เช่นเดียวกับความกว้างตัวรถ 1,999 มิลลิเมตร และความสูงตัวรถอีก 1,810 มิลลิเมตร โดยที่ความยาวตัวรถทั้งหมดยังยาวถึง 5,240 มิลลิเมตรเช่นกัน โดยทั้งหมดจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานแพลตฟอร์ม SPA Evo ของทาง Geely บริษัทแม่อีกที

นอกนั้น ในส่วนของงานออกแบบภายนอกตัวรถ เราจะยังคงเห็นกลิ่นอายของความเป็น Lynk & Co ได้จาก รูปทรงของแถบไฟ DRL อันเป็นเอกลักษณ์ และตัวรถยังมาพร้อมกับเส้นสายที่ไม่ได้เน้นในเรื่องของความเหลี่ยมสันมากนัก แต่แน่นความบึกบึนด้วยสัดส่วนที่แน่นหนา ตั้งแต่หัวจรดท้าย โดยที่ด้านหน้ายังมีแถบไฟแบบ Pixel คั่นกลางระหว่างไฟหน้าอีกที และแถบที่ว่านี้ยังสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นรูปภาพหรือแถบตัวอักษรตามที่ผู้ใช้ในรถต้องการได้อีกด้วยว

เสาหลังคาเอง ก็ถูกทำให้เป็นสีดำ เพื่อเพิ่มความรูปสึกโฉบเฉี่ยว แต่ดูไปดูมากลับคล้ายรถอเนกประสงค์สุดหรูรุ่นหนึง่ของแบรนด์อังกฤษอยู่กลายๆ และจะมีการเพิ่มลายเส้นสำหรับเล่นกับแสงเงาที่บริเวณแก้มข้างตามกรอบซุ้มล้อ และชายล่างประตูเพื่อเพิ่มมิติให้กับตัวรถก็เป็นอันจบงาน

ทั้งนี้ เนื่องจากมันยังเป็นเพียงแค่การเปิดภาพและเปิดสเป็คโดยคร่าวของตัวรถ จึงทำให้ทางค่ายยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในเชิงลึกของตัวรถออกมามากนัก รวมถึงราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเอง ก็ยังไม่มีการเปิดเผยช่วงตัวเลขออกมา แต่ก็คาดว่าจะมีการเปิดเผยกันอีกครั้งภายในช่วงไม่เกินกลางปีนี้