ทำตลาดเมืองจีนมาได้สักพักล่าสุด MAXUS ค่ายรถเพื่อการพาณิชย์เครือ SAIC เปิดตัวทางเลือกใหม่ด้วย MAXUS 9 PHEV เอ็มพีวีพลังเสียบปลั๊ก
ประเดิมรุ่นแรกด้วยรุ่น First Edition สิ่งที่ต่างจากรุ่นอีวีตรงที่ช่องระบายอากาศแบบแนวตั้งในชุดกันชนหน้านอกกนั้นเหมือนรุ่นอีวีทั้งหรูหราด้วยการดีไซน์ออกแนวเท่กับขอบฝากระโปรง กระจังหน้าปิดทึบ พร้อมชุดไฟ LED เริ่มที่ไฟหน้า full LED adaptive headlights ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime พร้อมไฟเลี้ยวในตัว กันชนหน้าขึ้นรูปรับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่สีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้า LED ทรงแนวตั้ง
ชุดตกแต่งโครเมียมที่ขอบกระจังหน้า ขอบกระจก คิ้วชายล่างประตู คิ้วกันชนหลัง ไฟท้ายดีไซน์แนวยาว LED หลังคา Dual Panoramic Sunroof ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า และ ล้ออัลลอยลายสุดล้ำขนาด 19 นิ้ว สไตล์ aerodynamic พร้อมยางแบบ Run Flat
ภายในล้ำอนาคตกับแผงคอนโซลแบบ Double Layer มีหน้าจอลอยตัว 3 จอ เริ่มที่มาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ลากเป็นแนวยาว 2 จอขนาด 12.3 นิ้วรองรับ Apple Car Play และ Android Auto พร้อมลำโพง 12 จุดจาก JBL ช่องเชื่อมต่อ USB 9 จุด และช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน มาตรวัดดิจิตอล 7 นิ้ว มีไฟสร้างบรรยากาศภายใน ambient light 64 สี ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 กุญแจนิรภัยแบบอัจฉริยะ พร้อมระบบ Push Start และที่ชาร์จมือถือไร้สาย
เบาะนั่งหรู 7 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งแถวที่สอง แบบ VIP Captain Seat พร้อมระบบจดจำตำแหน่งการนั่ง (Memory Seats) ระบบนวดเบาะอุ่นและระบายความร้อนควบคุมผ่านหน้าจอ Touch Screen พร้อมช่องวางโทรศัพท์ โต๊ะพับและที่วางแก้ว ตกแต่งด้วยวัสดุหนัง เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางและฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ทุกที่นั่งมีระบบอุ่นเบาะ ระบายอากาศ และนวดเพื่อผ่อนคลาย หุ้มหนัง NAPPA และกระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติเป็นกล้องมองด้านหลังผ่านจอที่กระจกได้ แบบ Streaming Media Rearview Mirror
ขุมพลัง Plug In Hybrid ด้วยเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 235 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 239 แรงม้า แรงบิด 390 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 39.7 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 388 แรงม้า แรงบิด 625 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 225 กิโลเมตร และน้ำมัน 1 ถัง และชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งไกล 1,309 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC
คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super-hybrid dedicated P1+P3 series-parallel dual-motor มีทั้งชาร์จช้ากระแสสลับ AC และชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% ประหยัด 15.38 กิโลเมตรต่อลิตร มีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย มาพร้อมช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION บนพื้นฐานช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ MAXUS 9 PHEV หรือ MG MAXUS 9 เปิดขายจีนในราคา 2,999,000 Yuan หรือราว 1,515,000 บาท ส่วนรุ่นย่อยอื่นๆจะเปิดตัวอีกทีในวันที่ 7 มิถุนายน