ทำตลาดมา 4 ปี และไม่มีวี่แววที่จะมีการปรับโฉมตามเพื่อนๆในค่ายสำหรับ Mazda CX-30 อเนกประสงค์สายสปอร์ตที่กล้าให้ออปชันจัดเต็ม
ล่าสุด Mazda ญี่ปุ่นเปิดตัวรุ่น MY2023 สำหรับ Mazda CX-30 งานนี้เพิ่มสีใหม่มา 2 สีนั่นคือ สีบรอนซ์เงิน Ceramic Metallic และสีทอง Zircon Sand Metallic หน้าตาเดิมๆตั้งแต่ กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิงโครเมียม ไฟหน้า Projector แบบ LED ทรงเรียวขึ้นรับกับไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Signature พร้อมระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS กันชนหน้า-หลัง สีทูโทนทรงบึกบึนคิ้วขอบล้อดีไซน์ใหญ่ ล้ออัลลอย 5 ก้านคู่ขนาด 18 นิ้ว ด้านท้ายเท่ด้วย ไฟท้าย LED Signature วงกลม หลังคาซันรูฟ พร้อมสปอยเลอร์หลัง ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
พร้อมกันนี้ยังแนะนำรุ่นพิเศษ Mazda CX-30 Retro Sports Edition ด้วยภายนอกสีทอง Zircon Sand Metallic พร้อมการตกแต่งเน้นของดำเกือบทั้งคันตั้งแต่ กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิง กระจกมองข้างทรงสปูน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และสปอยเลอร์หลัง และภายในพิเศษด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีแทนหนังกลับ Suede สีดำ พร้อมการตัดเย็บอย่างประณีตแบบโทนดำหนังกลับเดินด้ายแทนที่แผงคอนโซลหน้าส่วนบน แผงประตูรถเป็นต้น
พร้อมออปชันใหม่จอสัมผัสขนาดใหม่ 10.25 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto เชื่อมต่อระบบความบันเทิง Mazda Connect infotainment system ผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมที่ชาร์จมือถือไร้สายและช่องเสียบ USB Type C พร้อมไฟเรืองแสงที่ช่องเสียบ พร้อมออปชันแตกต่างในแต่ะรุ่นทั้งระบบอุ่นเบาะคู่หน้า อุ่นที่ขอบพวงมาลัย กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับเลนส์เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติแบบไร้กรอบ ไฟส่องภายในด้านหลังแบบ LED และลำโพงสูงสุด 12 จุดจาก Bose และยังมีแอป MyMazda สามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระยะไกลและทำงานร่วมกับระบบปรับอากาศสามารถปรับอุณหภูมิได้ ให้ความเย็นสบายและสะดวกเมื่อเริ่มต้นการเดินทาง และยังติดตามรถได้หากเกิดการโจรกรรม
เครื่องยนต์สำหรับตลาดญี่ปุ่นเริ่มที่เครื่องยนต์เบนซินมายด์ไฮบริด e-SKYACTIV-G M Hybrid 2.0 ลิตร 156 แรงม้า แรงบิด 199 นิวตันเมตรจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 24V electrical system และ แบตเตอรี่ขนาดเล็กแบบ lithium-ion battery ให้กำลังมากถึง 6.9 แรงม้า แรงบิด 49 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบ integrated starter generator (ISG) เสริมประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้นหยุดการทำงาานเครื่องยนต์ชั่วคราวได้และติดเครื่องยนต์แบบนุ่มนวลเนียนๆ ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน
และยังมีดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D 1.8 ลิตร ให้กำลังมากสุด 130 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตรทั้งสองขนาดจับคู่กับกับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด พร้อม Paddle Shift เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมความปลอดภัยทั้งระบบควบคุมแรงบิดให้เหมาะสมในขณะเข้าโค้ง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC+) และ i-Activsense เพิ่มระบบป้องกันการสตาร์ทรถผิดพลาดในกรณีรถเดินหน้าหรือถอยหลัง และระบบเตือนการเสียสมาธิขณะขับขี่หากตรวจพบระบบจะเตือนด้วยภาพที่หน้าจอและเสียงแจ้งผู้ขับขี่ทันที
Mazda CX-30 MY2023 สเปกญี่ปุ่นมีทั้งหมด 16 รุ่นย่อยในราคาเริ่มต้น 2,556,400 – 3,678,400 Yen หรือราว 625,000-895,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย
