Home » Mercedes-AMG SL 55 โร้ดสเตอร์ตัวแรง ขายไทย เริ่มต้น 18.8 ล้านบาท
รถใหม่ รถใหม่ในประเทศ ราคารถใหม่

Mercedes-AMG SL 55 โร้ดสเตอร์ตัวแรง ขายไทย เริ่มต้น 18.8 ล้านบาท

นอกจากรถสปอร์ตคูเป้ และอเนกประสงค์บ้าพลัง ในงาน Motor Show 2025 ทางค่ายหรูเมืองเบียร์ยังมีการเปิดตัวรถสปอร์ตโร้ดสเตอร์ Mercedes-AMG SL 55 เสริมไลน์อัพเพิ่มเติมด้วย

Mercedes-AMG SL 55 โดดเด่นด้วยกระจังหน้า AMG-specific radiator grille with V8-Styling-Paket Exterieur, ติดตั้งไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT, ระบบไฟด้านข้างประตูแบบ AMG light display, หลังคาเปิดประทุนแบบ Fabric soft-top ซึ่งสามารถเปิดและปิดภายในระยะเวลาเพียง 15 วินาที โดยควบคุมได้ในความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม., สปอยเลอร์ระบบไฟฟ้า electrically extending rear wing และมาพร้อมล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX7 ทำงานร่วมกับหน้าจอขนาด 11.9 นิ้ว สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 12-32 องศา ช่วยปรับให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมป้องกันแสงสะท้อนจากการเปิดหลังคาที่มากระทบหน้าจอ ส่วนจอหน้าที่นั่งคนขับเป็นหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว แบบ AMG-specific indicator และยังติดตั้งพวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel หุ้มหนัง Nappa leather และให้ AMG Sport seats พร้อม AIRSCARF

สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย ก็ยังจัดมาให้เต็มระบบ ทั้งกล้องมองรอบคันแบบ 360 องศา, ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist), ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist), ระบบช่วยการทรงตัวและดึงรถกลับเข้าช่องจราจร (Evasive Steering Assist), และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ฯลฯ

หัวใจสำคัญของตัวรถรุ่นนี้ คือเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมที่อยู่ภายใน ตั้งแต่ เครื่องยนต์อันทรงพลังในแบบฉบับ AMG ประกอบขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพียงผู้เดียว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแบบ One Man, One Engine

นั่นคือ เครื่องยนต์ M177 DE40LA แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo มอบพละกำลังสูงสุด 476 แรงม้าที่ 2,250-4,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sport Transmission แบบใหม่ที่สามารถรองรับแรงบิดได้สูง ช่วยให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที (ultra-short shift times) ผสานการทำงานของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มกำลัง

มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ AMG Performance 4MATIC+ แบบ all-wheel drive ซึ่งถูกปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการขับขี่บนถนนปกติและในสนามแข่ง โดยจะตอบสนองการเข้าโค้งอย่างปลอดภัยและรวดเร็วโดยไม่เสียการควบคุม ด้วยการกระจายกำลังไปที่ล้อต่าง ๆ อย่างเหมาะสม และแปรผันตามสภาพถนนเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถทำเวลาในสนามแข่งได้ดีที่สุด

โดยหากผู้ใช้เลือกเปิดระบบช่วยการออกตัวแบบ RACE START ก็จะทำให้รถสามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 3.9 วินาที และมีการจำกัดความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังผสานการทำงานกับระบบช่วยเหลือการควบคุมการเลี้ยวด้วยล้อหลังแบบ AMG Rear-Axle Steering โดยระบบจะทำงานแบบอัตโนมัติเมื่อความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ด้วยการใช้ล้อหลังในการเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้าไม่เกิน 0.7 องศา แต่ถ้าหากต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเลี้ยวตรงกันข้ามกับล้อหน้าไม่เกิน 2.5 องศา

ระบบช่วงล่างแบบ AMG RIDE CONTROL Sports Suspension โดยผู้ขับขี่สามารถปรับระบบการทำงานของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ คือ Comfort, Sport และ Sport+ ระบบจะช่วยปรับบุคลิกของช่วงล่างให้เป็นไปตามโหมดที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ ผ่านหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางหรือปุ่มบริเวณพวงมาลัย

ระบบถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์และเทอร์โบแบบ AMG Real Performance Sound จะแสดงเสียงภายในห้องโดยสารบริเวณคอนโซลกลาง โดยใช้เสืยงสังเคราะห์ผสานการทำงานกับเสียงท่อสุดเร้าใจตามแบบฉบับของ AMG ซึ่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง Sporty, Discreet (BALANCED) หรือ Motorsporty และ Emotive (POWERFUL) สามารถเลือกโหมดผ่านระบบปรับรูปแบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT

โดยในโหมด S และ S+ จะสามารถถ่ายทอดพลังเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และติดตั้งเบรกสมรรถนะสูง AMG High-Performance Brake System ที่สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำในทุกสภาวะการขับขี่ และระบบเบรกแบบ Sports Braking System ยังติดตั้งช่องระบายอากาศเพื่อลดอุณหภูมิของเบรกเมื่อมีการใช้งานในความเร็วสูงอีกด้วย

โดย Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 14,900,000 บาท และมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีเหลือง (Sun Yellow) สีดำ (Obsidian Black) สีเงิน (High-tech Silver) สีเทา (Selenite Grey) สีน้ำเงิน (Hyper Blue) และสีน้ำเงิน (Spectral Blue)

นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อม OPITONAL EXTRA ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกออปชันและอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้อีกมากมาย เช่น สีตัวถังแบบ MANUFAKTUR, สีหลังคา Fabric soft-top, ล้ออัลลอยด์ AMG, การตกแต่งภายในแบบ AMG special trim, ระบบเสียง Burmester® high-end 3D surround sound system ที่มาพร้อม AMG 3D Spider ในการเพิ่มเส้นใยนำเสียงที่บริเวณหลังคา, รวมถึงการตกแต่งภายนอกด้วยชุดแต่ง AMG Night Package, AMG Night Package Plus หรือ AMG DYNAMIC PLUS Package, ไปถึงการเปิดระบบช่วงล่างแบบ AMG ACTIVE RIDE CONTROL suspension ที่จะมาพร้อมระบบ Lift system, front axle ที่สามารถปรับระดับบริเวณล้อหน้าได้ชั่วคราวอีกด้วย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.