นอกจาก CyberSter ดูเหมือนทาง MG จะต้องการขยายฐานผลิตภัณฑ์ที่เน้นงานออกแบบเฉพาะตัวให้ใหญ่ขึ้น และคราวนี้ก็คือการทำรถอเนกประสงค์ไฟฟ้าที่มีงานดีไซน์แปลกตาออกมา นั่นคือ MG CyberX Concept คันนี้

MG CyberX Concept ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Shanghai Auto Show 2025 ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และมันคือรถต้นแบบที่ทางค่ายระบุว่าพวกเขามีแผนที่จะทำมันออกมาวางขายจริงด้วย โดยจะเป็นทางเลือกของรถยนต์ตระกูล Cyber-Series ที่ต่างจาก CyberSter ออกไป
โดยในส่วนงานดีไซน์ตัวรถ เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันมาพร้อมกับรูปทรงตัวถังแบบกล่อง เส้นสายเหลี่ยมสัน แต่สะอาดตา แทบไม่มีส่วนยื่นรอบคันใดๆให้เกะกะสายตา แม้ระยะยื่นกันชนหน้า-หลัง จากแนวล้อก็ยังค่อนข้างสั้น ซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่านี่คือรถที่เกิดมาเพื่อการบุกตะลุย แม้แต่ไฟหน้ายังถูกทำให้เป็นแบบป็อบอัพ ซึ่งจะสามารถเปิดขึ้นมาเมื่อจำเป็นเท่านั้น อีกด้วย (แต่จะใส่ออพชันนี้ในรถขายจริงได้มั้ย ต้องรอดูเรื่องข้อกฏหมายกันต่อไป)
และหากคุณภามว่าเหตุใดรถจึงมีหน้าตาที่โดดเด่นสะดุดตาเช่นนี้ นั่นก็เพราะเจ้าของผลงานการออกแบบตัวรถ คือ Jozef Kaban ผู้ซึ่งเป็นดีไซน์เนอร์มือดี ที่เคยฝากผลงานกับรถยนต์มาแล้วหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Audi, Skoda, Rolls-Royce, และ Volkswagen รวมถึงยังคงรับหน้าที่ออกแบบตัวถังภายนอกของ Bugatti Veyron อีก
มีความต้องการที่จะทำให้ตัวรถแสดงถึงความอเนกประสงค์ของรถยนต์จากแบรนด์ MG ว่าสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในฝั่งความสปอร์ตในจิตวิญญานอย่าง CyberSter หรือความท้าทายในการบุกตะลุยของรถคอนเซ็ปท์คันใหม่นี้
และเนื่องจากตัวรถ ยังคงอยู่ใน “ขั้นต้นแบบ” จึงทำให้ทางค่ายยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของมันออกมามากนัก นอกจากระบุว่ามันจะมีขนาดตัวด้านยาวเพียงแค่ราวๆ 4.3 เมตร เท่านั้น ส่วนภายในห้องโดยสาร ที่ยังไม่มีการเปิดเผยงานออกแบบให้เห็น ก็มีข้อมูลระบุว่ามันจะได้เทคโนโลยีซอฟท์แวร์ต่างๆที่ทาง MG พัฒนาร่วมกันกับบริษัทโทรศัพท์มือถืออย่าง Oppo ซึ่งนี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่บริษัทนี้หันมาทำซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการในรถยนต์
ด้านแพลตฟอร์มโครงสร้างตัวรถ ก็ถูกระบุว่ามันจะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดของ SAIC นั่นคือแพลตฟอร์ม E3 ที่มีการติดตั้งแบตเตอรี่เอาไว้ในแชสซีย์แบบ Cell-to-Body เพื่อความแข็งแรง และสมดุลการควบคุมตัวรถที่ดี รวมถึงยังช่วยลดน้ำหนักส่วนเกินได้ด้วย เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าแบบดั้งเดิม
และแม้จะมีการเปิดตัว รวมถึงมีตลาดเป้าหมายคือประเทศจีนเป็นหลัก แต่ทาง MG ก็ระบุว่าพวกเขามีแผนจะทำตลาดมันในยุโรป และออสเตรเลียเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีผลต่อการนำมาทำตลาดในประเทศไทยของเราด้วย
ทว่ากว่ารถจะพร้อมวางขายจริง ลูกค้าที่สนใจก็อาจจะต้องรอกันนานหน่อย เพราะแหล่งข้อมูลระบุว่า ทางค่ายอาจพร้อมวางขายรถคันนี้ในอีกราวๆ 1-2 ปีข้างหน้าเลยนั่นเอง