หลังการเผยโฉมครั้งแรกไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในงาน Motor Show 2023 ในที่สุด NEW MG MAXUS 9 รถลักชัวรี่ MPV ไฟฟ้า100% แบบ 7 ที่นั่งตัวล่าสุด ของ เอ็มจี ก็ถูกเปิดราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราแล้ว ด้วยตัวเลขเริ่มต้นที่ 2.499 ล้านบาท
ประสบการณ์ลักชัวรี่ครั้งใหม่ของคนไทย กับ MPV ไฟฟ้า100% แบบ 7 ที่นั่ง
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่ในการก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ของ เอ็มจี คือ การมาของ NEW MG MAXUS 9 กับจุดเด่นของการเป็นแบรนด์แรกที่เปิดน่านน้ำสร้างเซกเมนต์ใหม่ ที่ผสานความลงตัวในการนำเสนอความเป็น “ที่สุด” ทั้งงานดีไซน์ที่โดดเด่น หรูหรา มีเอกลักษณ์ กระจังหน้าแบบ Grille Less Design ประตูข้างทั้ง 2 ฝั่งเป็นแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
การตกแต่งภายใน พรีเมี่ยม หรูหรา โดดเด่นด้วยหลังคาแบบ Dual Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ ทำให้ห้องโดยสารดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด อีกทั้งยังมี Ambient light ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้มากถึง 64 เฉดสี ที่ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สะท้อนการออกแบบที่คำนึงถึงทุกพื้นที่ภายในรถ
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับความสะดวกสบายทุกที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และเบาะแถวที่สองแบบ VIP Captain Seat ซึ่งรังสรรค์ความพิเศษด้วยประสบการณ์เช่นเดียวกันกับที่นั่ง First Class บนเครื่องบิน โดยมีระบบบันทึก ระบบนวด และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามความต้องการ พร้อมโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้
จอกลางแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ใช้งานง่าย รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ให้พลังเสียงแบบรอบด้านด้วยลำโพงมากถึง 12 จุด และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อด้วยช่อง USB มากถึง 9 ตำแหน่ง เสริมความพรีเมี่ยมด้วยกระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror กับมุมมองที่หาไม่ได้จากรถทั่วไป
ในด้านของสมรรถนะและประสิทธิภาพ NEW MG MAXUS 9 แตกต่างด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบลิเธี่ยมไอออน จัดวางแบบ Cell-To-Pack ขนาดความจุ 90 kWh ให้ระยะวิ่งสูงสุดที่ 540 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมรองรับการชาร์จเร็วสูงสุดที่ 120 kWh โดยชาร์จไฟจาก 30% – 80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที และการชาร์จแบบธรรมดา รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh โดยชาร์จไฟจาก 5% – 100% ในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง
พร้อมมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Full Space Frame ถุงลมนิรภัยรอบคัน และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสูงอย่าง ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADAS รวม มากถึง 25 ระบบ โดย NEW MG MAXUS 9 ได้รับมาตรฐาน 5 ดาว ทั้ง EURO NCAP และ AUSTRALIAN NCAP
NEW MG MAXUS 9 พร้อมส่งมอบประสบการณ์ลักชัวรี่อีวีสู่ประเทศไทย
เอ็มจี พร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์ลักชัวรี่อีวี เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาดอีวีในไทยโดย NEW MG MAXUS 9 พร้อมทำตลาดและจัดจำหน่ายในไทย 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น X – LUXURY ที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.499 ล้านบาท และ
รุ่น V – SUPER LUXURY ที่มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.699 ล้านบาท และสีพิเศษเทาหลังคาดำ แกรนิต เกรย์ เพิ่ม อีก 30,000 บาท
ซึ่ง เอ็มจี พร้อมเสิร์ฟอภิสิทธิ์สุดพิเศษในช่วงเปิดตัวด้วยแคมเปญมูลค่า กว่า 120,000 บาท ดังนี้
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด มูลค่า 42,057 บาท
- ฟรี ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER มูลค่า 18,692 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- พิเศษ! ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการรถ Limousine Service กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอด 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากได้รับกระแสตอบรับอย่างดีกับการปรากฏตัวครั้งแรกของ NEW MG MAXUS 9 ในอาเซียน ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่ผ่านมา เอ็มจี ได้เพิ่มเซกเมนต์ใหม่ให้ลูกค้ามี “ตัวเลือก” ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น ด้วยการแนะนำ NEW MG MAXUS 9 ให้กับคนไทย ซึ่งรถล็อตแรกเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว และจะทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้
โดยภายในเดือนมิถุนายน เราจะสามารถส่งมอบรถ NEW MG MAXUS 9 ได้ไม่ต่ำกว่า 500 คันให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ เราได้สร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้งานรถอีวี ด้วยสถานี MG SUPER CHARGE STATION ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 130 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงขยายศูนย์บริการทั่วประเทศให้สามารถรองรับบริการรถยนต์ไฟฟ้าของลูกค้า เอ็มจี เพื่อให้คนไทย อุ่นใจในการใช้รถอีวีได้ในทุกพื้นที่”