ทำตลาดมา 2 ปี ได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกรักษ์โลกสำหรับ Toyota Mirai เจนที่ 2 เก๋งพลังไฮโดรเจนที่เปลี่ยนจากเก๋งเล็กสู่เก๋งใหญ่ขับหลัง
ด้วยการใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Lexus LS และเพื่อสร้างความสดใหม่ในตลาดญี่ปุ่นจึงเปิดตัวรุ่น MY2023 ออกมา สำหรับ Toyota Mirai ที่ทุกอย่างคงเดิมเพิ่มเติมในส่วนจอสัมผัสที่มีความละเอียดชัดแบบ HD แบบ 12.3 นิ้ว เพิ่ม IR CUT กระจกประตูคู่หน้ากันรังสี UV A และ UV B ช่วยกรองรังสีอินฟาเรด ลดอุณหภูมิในห้องโดยสารให้เย็นลง กับออปชันภายนอกภายในคงเดิมทั้ง กระจังหน้าทรงปิดทึบไฟหน้า Bi-beam LED ใต้ไฟหน้ามีไฟส่องสว่าง DRL แบบ LED คิ้วโครเมียมสีเงินใต้ขอบกันชนหน้า ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 19 นิ้วและ 20 นิ้ว คิ้วโครเมียมกรอบกระจกแบบโอเปร่า ไฟท้าย LED แนวยาวขนาดเล็กเรียวพร้อมฝากระโปรงท้ายมีสปอยเลอร์ในตัว
ฟังเพลงไพเราะตลอดการเดินทางด้วย ลำโพง JBL ที่ให้มาถึง 14 ตัว มาตรวัดดิจิทัล 8 นิ้ว พร้อมมาตรวัดความเร็วและระบบนำทางจอแสดงผลแบบสีบนแผงคอนโซลหน้า Head Up Display ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบสามโซน เป็นต้น
ขุมพลังแบบ FCEV ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเติมไฮโดรเจน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับหลัง 182 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion 1.2 kWh ผนวกถังไฮโดรเจน 3 ถังใต้ท้องรถที่มีความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 9.4 วินาที แถมวิ่งไกลสุดต่อการเติมหนึ่งครั้งเพียง 750-850 กม. โดยเติมหนึ่งครั้งเพียง 3-5 นาที เพิ่มความปลอดภัยในส่วนระบบช่วยขับอัตโนมัติ Toyota Teammate (Advanced Drive) ในส่วนระบบเตือนมุมอับสายตาที่ไม่ให้รถออกนอกเลนได้
ที่ญี่ปุ่น Toyota Mirai MY2023 ขายแล้วทั้งหมด 7 รุ่นย่อยในราคา 7,106,000- 8,600,000 Yen ถ้าจะตีเงินไทยอยู่ที่ 1,874,000 บาท
