Audi A6 Avant รถเอสเตทตัวหรูระดับกลางสำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้านคันใหม่เอี่ยม ที่พกพาความกว้างขวางของห้องโดยสารมาครบทุกมิติ โดยห้องเก็บสัมภาระมีความจุมากถึง 1,680 ลิตร เมื่อพับเบาะลง เรียกว่าถูกสร้างเพื่อเอาใจการใช้งานในครอบครัวโดยเฉพาะ
บางทีก็นึกสงสัยว่าเหตุใดแบรนด์รถยนต์จากเยอรมันอย่าง Audi หรือ อาวดี้ ถึงออกแบบรถเอสเตทได้สวยงามมีสเน่ห์ไม่เหมือนใคร ดูได้จากรถพ่อบ้านแม่บ้านคันล่าสุด Audi A6 Avant รถเอสเตทขนาดกลางอันหรูหรามีระดับที่พกพาจุดเด่นเรื่องพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระขนาด 1,680 ลิตร ซึ่งใหญ่โตมากพอจะใส่ข้าวของจำนวนมากได้แบบล้นเหลือ
รูปลักษณ์ภายนอกของ A6 Avant เรียกว่าถอดแบบมาจาก A6 Sedan มาไม่มีผิดเพี้ยน โดยมันมีความยาว 4,940 มม. กว้าง 1,890 มม. และสูง 1,470 มม. ทำให้ภายในห้องโดยสารมีขนาดใหญ่กว้างขวางกว่าคู่แข่งคันอื่นแบบเห็นได้ชัด โดยอาวดี้เคลมว่าบริเวณด้านหน้ากับด้านหลังมีพื้นที่ที่วางแขนเหนือและที่วางขามากกว่าคู่แข่ง ขณะเดียวกันความจุห้องเก็บสัมภาระตอนยังไม่พับเบาะก็มีถึง 565 ลิตร แล้วหากพับเบาะที่พับได้ 40:20:40 จะได้ความจุมหาศาล 1,680 ลิตร
นอกจากนี้บริเวณห้องเก็บของท้ายรถจะมีแผ่นบังสัมภาระที่เลื่อนปิดเปิดอัตโนมัติ ซึ่งหากจะควบคุมเองก็สามารถทำได้ ยิ่งไปกว่านั้นตรงพื้นห้องสัมภาระจะมีรางพร้อมขอเกี่ยว 4 จุด พร้อมตาข่ายกับตะขอเกี่ยว 2 จุดไว้คลุมสัมภาระไม่ให้เลื่อนไหล
ขุมพลังหลักของ A6 Avant จะเหมือนกับรุ่นซีดาน คือมีสองขุมพลังให้เลือกติดตั้ง เริ่มด้วยเครื่องเบนซิน TFSI แบบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร 335 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 สปีด S Tronic ที่ส่งอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 5.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. สำหรับบล็อกดีเซล TDI จะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีกำลังแรงม้า 282 ตัว แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร
นอกจากนี้ A6 Avant ยังติดตั้งระบบ Mild Hybrid ที่ทำให้รถวิ่งด้วยความเร็วคงที่ที่ 55-160 กม./ชม. แบบไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ พร้อมด้วยระบบเลี้ยว 4 ล้อ ที่ช่วยให้เลี้ยวได้แคบขึ้น 5 องศาเมื่อขับที่ความเร็วต่ำ ส่งผลต่อการเลี้ยวกลับรถในวงแคบที่สะดวกมากกว่า นอกจากนี้เมื่อขับเกิน 60 กม./ชม. ระบบนี้ยังเพิ่มสมรรถนะการขับขี่อันเฉียบคมและคล่องตัว
เหนือสิ่งอื่นใดคือลูกค้าสามารถเลือกช่วงล่างได้ 4 แบบ ตั้งแต่ช่วงล่างแบบโช้คสปริงปกติ ช่วงล่างแบบสปอร์ต หรือจะแบบโช้คพร้อมตัวปรับความนุ่มแข็งอ่อน และช่วงล่างแบบถุงลมที่แปรผันได้ ขณะเดียวกันก็มีระบบควบคุมตัวถัง ECP ที่ส่งผลถึงฟีดแบ็คของพวงมาลัยรวมถึงช่วงล่าง โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมด คอมฟอร์ท อัตโนมัติ หรือแปรผันได้ตามใจชอบ
ปิดท้ายด้วยระบบเชื่อเหลือกับระบบความปลอดภัยที่จัดเต็มมาแน่นคัน เริ่มด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่มีโหมด “City” และ “Tour” โดยมอบระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติมาเป็นมาตรฐาน แล้วยังมีระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่เมื่อขับรถในที่แคบ รวมถึงรองรับขับขี่อัตโนมัติที่จะเบรกพร้อมกับเร่งอัตโนมัติไปจนถึงความเร็ว 250 กม. /ชม.
กำหนดการเปิดตัวของ Audi A6 Avant ในไทยนั้นต้องรอจนกว่าผู้แทนจำหน่ายในบ้านเราจะนำรถเข้ามา ซึ่งอย่างเร็วสุดคงอยู่ในช่วงปลายปี 2018 นี้ โดยเราคาดว่าพวกเขาจะเปิดตัวรุ่นซีดานกับเอสเตทพร้อมกัน ขณะที่ราคาคงจะพุ่งไปอยู่ราว 3.5-4 ล้านบาท
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg_images source=”galleries” container_ids=”547″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]