ในที่สุด Mazda เปิดตัวรุ่นปรับโฉม 3 ในรอบ 9 ปีของ Mazda 2 เก๋งเล็กยอดนิยม ที่ออกมาในนาม Mazda 2 2024 ที่คาดว่ากันว่า นี่จะเป็นการอัพเดท สั่งลาในโฉมสุดท้าย
ปรับครั้งนี้มาในแนวสปอร์ตและแนวรถยนต์พลังงานทางเลือกตั้งแต่กระจังหน้า Signature Wing ปรับดีไซน์แบบขอบดำเข้มสองแบบทั้งแบบตาข่ายสีดำ และ แบบครึ่งตาข่ายครึ่งปิดทึบสีเดียวกับตัวรถรับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่คาดสีดำกันชนหลังคิ้วโครเมียม
พร้อมไฟท้าย LED ตกแต่งใหม่ด้วยหลังคาสีดำ และ เสาอากาศครีบฉลามสีดำ ซึ่งจะเป็นออปชันของแต่ละรุ่น ล้ออัลลอยกับกระทะล้อมีการปรับในส่วนของกระทะล้อพร้อมฝาครอบสีทูโทนขนาด 15 นิ้วในรุ่น BD
ล้ออัลลอยลายเดิม 15 นิ้วยังคงอยู่ในรุ่น Sunlit Citrus และลายใหม่ 16 นิ้ว ปลายท่อไอเสียขัดเงา สีภายนอกสีทูโทนหลังคาสีดำ ในรุ่น Sport กับ Sport+
ภายในปรับสีสันใหม่กับโทนสีการตกแต่ง ตั้งแต่รุ่น Sunlit Citrus หรูด้วยเบาะกึ่งหนังแท้สลับหนังกลับขาวขลิบเหลือง ตกแต่งโทนสีดำสีขาว ตั้งแต่แผงคอนโซลหน้า แผงประตู แผงคอนโซลเกียร์ ช่องแอร์ขลิบสีเหลือง กุญแจรีโมทตกแต่งพิเศษด้วยสีเหลืองกับสีเงินเงา และพรมปูพื้น
รุ่น BD ตกแต่งแผงหน้าคอนโซลหน้าและคอนโซลเกียร์ มีสามสีให้เลือก คือ สีขาว Pure White, สีดำ Mirror Black หรือสีมินท์ Mint ขึ้นอยู่กับสีภายนอก ในขณะที่รุ่น Sport และ Sport+ ตกแต่งภายในสีดำ เย็บด้ายสีแดง ช่องระบายอากาศโดยรอบ สำหรับรุ่น GT ยังมีแผงคอนโซลหน้าสีแดงตัดดำ
พลัง SKYACTIV ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งเบนซิน SKYACTIV-G 1.5 ลิตร 110 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 สปีด และมี ดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D 1.5 ลิตร 105 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 สปีดและแรงบิด 220 นิวตันเมตรที่ 1,400-3,200 รอบ/นาที ในรุ่นเกียร์ธรรมดา SKYACTIV-MT 6 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ
Mazda 2 รุ่นปรับโฉมหนสาม มีสีภายนอกใหม่ถึง 2 สี ได้แก่ สีเทา Aero Grey Metallic และ สีน้ำเงินอ่อน Airstream Blue Metallic พบกันปลายเดือนมีนาคมนี้ ในราคาเริ่มต้น 1,529,000 – 2,541,000 yen หรือราว 395,000-654,000 บาท