Home » Suzuki XL7 ร่างยกสูงของ Ertiga มาเพื่อแข่งกับมิตซูฯ ตัวจี๊ด
รถใหม่ต่างประเทศ

Suzuki XL7 ร่างยกสูงของ Ertiga มาเพื่อแข่งกับมิตซูฯ ตัวจี๊ด

ตลาดรถมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ณ แดนอิเหนา แข่งขันกันดุเดือดแบบไม่มีใครยอมใคร ล่าสุด Suzuki XL7 ร่างยกสูงของ Ertiga ออกมาต่อกรกับ Mitsubishi Xpander Cross

อินโดนีเซียขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ผู้คนนิยมรถครอบครัวทุกมิติขนาด โดยเฉพาะกับรถมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ที่มีผู้เล่นในตลาดมากมาย ซึ่งล่าสุด Suzuki XL7 อีกเวอร์ชั่นยกสูงของ Suzuki Ertiga ที่ดึงดูดลูกค้าด้วยการตกแต่งสไตล์เอสยูวีสายลุยยกสูง

จุดที่ทำให้ซูซูกิต้องดัน XL7 ออกมาก็เพราะ รอช้าให้ทางคู่แข่งตัวแสบอย่าง Mitsubishi Xpander Cross มาแย่งยอดขายรถกลุ่มครอบครัวที่ตกแต่งสไตล์ยกสูงไม่ได้ ซึ่งตลาดกลุ่มนี้มีการยกระดับขึ้นสูงกว่ารถมินิเอ็มพีวีปกติ เน้นภาพลักษณ์สมบุกสมบันจากทั้งการตกแต่ง และมีระดับจากการเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปอีกหลายรายการ

ในด้านมิติตัวถัง XL7 มีความยาว 4,450 มม. ความกว้าง 1,775 มม. ความสูง 1,710 มม. และระยะฐานล้อ 2,740 มม. ส่วนความสูงจากถนนถึงตัวรถอยู่ที่ 200 มม. มากกว่า Ertiga โฉมปกติอยู่ 20 มม. ซึ่งเมื่อรวมกับชุดแต่งรอบคันแล้วทำให้ XL7 เป็นรถมินิเอ็มพีวีที่ดูสะดุดตาผู้พบเห็นไม่แพ้คู่แข่ง

การตกแต่งภายนอกมีการจัดหนักกว่า Ertiga เริ่มจากโคมไฟหน้าแอลอีดีแบบเกล็ดปลา กระจังหน้าสีดำคาดด้วยแถบสีเงินพร้อมโลโก้ตรงกลาง กับบรรดาชุดพลาสติกตามแนวซุ้มล้อ ชายขอบประตู และบริเวณกันชนท้ายรถสีดำ เสริมลุคให้ดูเหมือนเอสยูวีสายลุยคันใหญ่โต ด้านบนยังมีราวหลังคาไว้สำหรับติดแร็คบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติมให้อีกต่างหาก

ห้องโดยสารภายในตกแต่งในสไตล์เข้มดุดันทันสมัย ด้วยทริมลายคาร์บอนไฟเบอร์ตามแผนคอนโซล กับโทนสีห้องโดยสารที่เน้นสีดำให้อารมณ์ต่างจากรถมินิเอ็มพีวีทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการติดตั้งกระจกมองหลัง E-Mirror ซึ่งมีกล้องบันทึกภาพขณะขับรถทั้งหน้าและหลังไว้ให้ครบถ้วน หากผู้ขับขี่ต้องการตรวจดูก็สามารถกดปุ่มที่อยู่ใต้กระจกมองหลังได้ และพวกปุ่มสตาร์ท เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ กับช่องเสียบปลั๊ก 12V ในเบาะแต่ละแถว เหล่านี้มีติดตั้งมาให้

สำหรับสีตัวถังที่ลูกค้าสามารถเลือกได้บน XL7 มี 6 สี อาทิ สีแดง Pearl Burgundy Red, สีส้ม Rising Orange สีน้ำตาล Brave Khaki ส่วนรุ่นสูงสุด Alpha จะมาในสไตล์สีทูโทนหลังคาดำ ส่วนราคาจำหน่ายเริ่มต้น 230-267 ล้านรูปี (ราว 525,600-610,000 บาท) และมีแผนส่งไปจำหน่ายอีกกว่า 30 ประเทศ ซึ่งอาจมีไทยอยู่ในรายชื่อด้วย

ติดตามข่าวสารและบทความดี ๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.