ทวีปยุโรปเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่ผู้คนชื่นชอบรถขนาดเล็กไม่แพ้กับฝั่งญี่ปุ่น นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ Toyota Aygo ถูกส่งไปตีตลาดมานานหลายปี โดยตอนนี้มันก็ถึงคราวปรับโฉมให้ดูน่ารักน่าใช้งานขึ้น และมีการเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยรุ่นล่าสุดเพื่อเสริมความครบถ้วนทุกประเด็น
คุณยังจำรถคันเล็กสุดน่ารักอย่าง Toyota Aygo ได้หรือเปล่า? เจ้ารถที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นตรงที่กระจังหน้าทรงตัว X เพราะตอนนี้มันถึงคราวได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ดูสวยงามน่าใช้กว่าเดิม โดยด้านหน้าจะมีแผ่นพลาสติก 3 เหลี่ยมสีดำจัดวางอยู่ใต้โคมไฟหน้าพร้อมไฟเดย์ไลท์ที่ถูกออกแบบใหม่ ถัดมาก็มีช่องรับอากาศเข้าเครื่องยนต์เป็นแนวยาวสอดรับไปจนถึงไฟตัดหมอก
นอกจากนี้ทางผู้ผลิตได้เพิ่มสีตัวถังใหม่ ได้แก่ สีมาเจนต้า กับสีน้ำเงินโทนใหม่ ร่วมกับการสลับลายล้อ 15 นิ้ว ให้ดูมีเอกลักษณ์น่ารักกว่าเดิม ขณะเดียวกันด้านในห้องโดยสารก็มีเบาะผ้าเป็นมาตรฐานในรถเกือบทุกระดับ นอกจากนี้ก็ได้ตกแต่งข้างในเพิ่มด้วยสีเทากับสีดำเงาตามบริเวณต่างๆ อีกทั้งระบบสาระบันเทิง ปุ่มเครื่องปรับอากาศ และปุ่มอื่นๆ ก็ได้เปลี่ยนสีไฟพื้นหลังใหม่อีกด้วย
สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดของ Aygo คือมุ่งเน้นไปที่เรื่องเพิ่มความมีระดับน่าใช้งานให้แก่รถกลุ่มระดับสูง โดยรุ่น X ไปจนถึง X-Play จะได้เครื่องปรับอากาศ ระบบสาระบันเทิงแบบ X-Touch พร้อมจอสัมผัส 7 นิ้ว สำหรับในรุ่น X-clusiv จะเพิ่มการตกแต่งภายในสีทูโทน ล้ออัลลอย 15 นิ้ว เบาะผ้าสลับหนัง เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ กุญแจอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
หากพูดถึงระบบความปลอดภัยระดับสูงทีใส่มาอันประกอบไปด้วย ระบบแจ้งเตือนการชนพร้อมเบรกอัตโนมัติด้านหน้า ที่ทำงานระหว่างความเร็ว 10-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระบบแจ้งเตือนเมื่อออกนอกช่องจราจรที่ทำงานร่วมกัน
ภายใต้ฝากระโปรงหน้าติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร เหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่มีการปรับปรุงค่าไอเสียให้สะอาดกว่าเดิมจนผ่านมาตรฐานยูโร 6.2 ด้วยการใส่หัวฉีดคู่ เพิ่มกำลังอัด เปลี่ยนอะไหล่ภายในให้ทำงานได้ลื่นขึ้น รวมถึงปรับปรุงระบบเผาไอเสีย EGR ให้มีความเย็นกว่าเดิม และยังปรับปรุงรอบเดินเบาจนนิ่ง ทั้งหมดทำให้มันมีม้าจำนวน 72 ตัว กับแรงบิด 93 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 13.8 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 160 กม./ชม.
นอกเหนือจากเครื่องยนต์ทางโตโยต้าก็ได้ปรับระบบช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ทั้งในส่วนฟีลลิงของพวงมาลัยที่มอบความคมและเป็นธรรมชาติขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มวัสดุซับเสียงตามส่วนต่างๆ ให้ภายในมีความเงียบขึ้น
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com