ชาวมะกันขึ้นชื่อได้ว่าซื้อรถเอสยูวีมากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ทางโตโยต้าจึงได้เปิดเอสยูวีไซส์กลาง เบาะ 3 แถว 8 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง Toyota Highlander 2020
ผู้บริโภคบ้านเรามักคุ้นชินกับรถอเนกประสงค์พีพีวี 7 ที่นั่ง ไม่ก็รถคอมแพ็คเอสยูวีที่มีเบาะนั่งแบบ 5+2 ที่นั่ง ซึ่งมีให้เลือกอยู่หลายยี่ห้อ ทว่ารถเอสยูวีไซส์กลางตอนนี้กลับไม่มีจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ที่สหรัฐอเมริกาทางโตโยต้าได้เผยโฉม Toyota Highlander 2020 อเนกประสงค์เบาะ 3 แถว 8 ที่นั่ง รุ่นล่าสุดเพื่อเตรียมลุยตลาดเมืองลุงแซม
สำหรับคู่แข่งที่ต่อกรกับ Highlander โดยตรง คงหนีไม่พ้น Mazda CX-9, Honda Pilot, Nissan Pathfinder, Ford Explorer และ Chevrolet Traverse ซึ่งเจ้าไฮแลนเดอร์นั้นขึ้นแท่นรถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นขายดี การมาครั้งใหม่ก็เพื่อรักษาตำแหน่งให้อยู่เช่นเดิมต่อไป
ภายนอกมีรูปลักษณ์หรูหรา ดูปราดเปรียว อ่อนช้อย และคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อประสิทธิภาพในขับขี่กับเรื่องเสียงรบกวนที่เข้าสู่ภายในน้อยที่สุด โคมไฟหน้าแอลอีดีคู่ผสานลงตัวกับกระจังหน้าสีดำตัดโครเมียม ด้านข้างให้ลายล้ออัลลอย 20 นิ้ว สีเงินดูเข้ากันดีกับตัวรถ ด้านหลังมีไฟท้ายแอลอีดีรมดำแนวยาวดูสุขุม
ภายในห้องโดยสารโอ่โถงกว้างขวางกว้างเดิม ผู้โดยสาร 8 คนสามารถนั่งในรถคันนี้ ด้วยเบาะ 3 แถว 8 ที่นั่งได้สบายๆ ทั้งนี้ เบาะแถว 2 ยังปรับเลื่อนหน้าหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาให้คนนั่งเบาะแถว 3 ได้ สำหรับแผงคอนโซลหน้ามีการออกแบบมาหรูหรา ดูแล้วมีเส้นสายคล้ายกับ Toyota RAV4 รุ่นใหม่ แต่มีปรับปรุงบางจุดให้มีระดับยิ่งขึ้น
ด้วยการที่ไฮแลนเดอร์ใหม่ถูกสร้างบนโครงสร้าง TNGA-K จึงทำให้ โตโยต้าสามารถเช็ตค่าการขับขี่ของรถรุ่นนี้ให้ออกมามั่นใจและสบายไปพร้อมกัน ด้วยช่วงล่างอิสระทั้งหน้าและหลัง พร้อมกันนี้ยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ
เริ่มด้วยขุมพลังคู่บุญโตโยต้าอเมริกา อย่างเครื่องเบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 301 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิด 360 นิวตันเมตร ที่ 4,600-4,700 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift ไปยังล้อคู่หน้า หรือเลือกเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แปรผัน Dynamic Torque Vectoring
ต่อมาคือหัวใจรักโลก เครื่องเบนซินไฮบริด 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400-4,800 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้กำลังรวม 197 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four ส่วนแบตเตอรีใช้แบบ Nickel-hydrogen ขนาดความจุ 6.5 Ah
ด้านความปลอดภัยจัดระบบ Toyota Safety Sense 2.0 มาให้ทุกรุ่นย่อย ทั้งระบบ ระบบลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมตรวจจับคนเดินถนน หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และยังมีอื่นๆ อีก เท่านี้ก็เพียงพอต่อการเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดตลอดเวลาเดินทาง
อันที่จริง Toyota Highlander ยังมีอีกชื่อนึงว่า Toyota Kluger ซึ่งทำตลาดที่ประเทศออสเตรเลีย ออกมาตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากได้รถครอบครัวคันใหญ่ กับสมรรถนะในการใช้งานที่ครบถ้วน
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com [ngg src=”galleries” ids=”1122″ display=”basic_thumbnail”]
