Home » เผยสเป็ค Deepal L07 ซีดานไฟฟ้าหน้าใหม่ ก่อนเปิดราคาบุกไทยสัปดาห์หน้า
รถใหม่ รถใหม่ในประเทศ

เผยสเป็ค Deepal L07 ซีดานไฟฟ้าหน้าใหม่ ก่อนเปิดราคาบุกไทยสัปดาห์หน้า

นอกจากการเปิดตัว Deepal S07 ทาง Changan ยังมีการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นเพื่อเอาใจผู้ใช้รถชาวไทย นั่นคือ Deepal L07 ซึ่งเป็นรถยนต์ซีดานไฟฟ้าที่น่าสนใจไม่แพ้คู่แฝดร่าง SUV ของมันด้วย

Deepal L07 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทรง Fastback Sedan คันแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ CHANGAN โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สะท้อนถึงปรัชญาความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเน้นที่ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

รูปลักษณ์ภายนอกถูกดีไซน์ให้โฉบเฉี่ยวแต่ยังคงความเรียบหรูด้วยกระจังหน้าแบบมินิมอล ตกแต่งด้วยไฟหน้า LED อัจฉริยะ พร้อมไฟ DRL แบบ Star Petal เช่นเดียวกับไฟท้าย LED แบบ Star Flame

นอกจากนี้ยังมีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ตั้งแค่กันชนหน้าพร้อมครีบรีดอากาศ มือเปิดประตูแบบซ่อน และสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสริมด้วยการใช้เส้นสายอันพริ้วไหวที่ด้านข้างของตัวรถ ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่

เช่นเดียวกับบานประตูแบบ Frame Less Door หรือ ไร้กรอบกระจก, หลังคากระจกแบบพาโนรามาแบบกันความร้อน (Heat Resistance Panoramic Glass Roof), และ ชุดล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว ลายเฉพาะตัว รัดด้วยยางขนาด 245/45 R19 ที่จะทำให้ตัวรถดูล้ำสมัย น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

ภายในห้องโดยสารของ Deepal L07 ประกอบด้วยห้องโดยสารแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบพร้อมเซ็นเซอร์ครบวงจร ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูล้ำสมัย สอดคล้องกับเป้าหมายในการก้าวเข้าสู่อนาคตยานยนต์อันยั่งยืนของ CHANGAN จากฟังก์ชันที่ครบครันกว่าใคร ทั้ง

ห้องโดยสารอัจฉริยะ

  • ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้าพร้อมระบบนำทางแบบ ( AR Head-up Display with AR Navigation)
  • หน้าจอสัมผัสซันฟลาวเวอร์ ขนาด 14.6 นิ้ว ปรับทิศทางอัตโนมัติ (Auto Panning 14.6 Inches Sunflower Touchscreen)
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.2 นิ้ว (10.2 Inches LCD Meter)
  • จำนวนลำโพงรวมบริเวณพนักพิงศีรษะด้านคนขับ 14 ตำแหน่ง (14 Speakers Including Driver Headrest Speaker)
  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารแบบเปลี่ยนสีและปรับเป็นจังหวะได้ 64 สี (64 Colors LED Multi-color and Dynamic Ambient Light)
  • ระบบเลือกบรรยากาศในหองโดยสาร (Cabin Intelligent Scenario Modes)
  • ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายขนาด 40 วัตต์ (40 W Wireless Charger)
  • ระบบสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture Recognition)
  • ระบบแสดงภาพในห้องโดยสาร (In-car Monitor)
  • ระบบควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ (Mobile Remote Control)
  • โหมดการขับขี่ : ECO/COMFORT/SPORT/CUSTOMIZE
  • Apple CarPlay แบบไรสาย (Wireless Apple CarPlay)
  • รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ออนไลน์ (Over The Air, OTA)

ความสะดวกสบายของผู้โดยสารและการใช้งาน

  • ระบบจดจำตำแหน่งเบาะคนขับ พร้อมระบบเลื่อนเข้า-ออกอัตโนมัติ (Driver Seat Position Memory and Welcome Function)
  • ระบบเป่าลมบริเวณเบาะนั่งและพนักพิงหลังสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (Ventilated Driver and Front Passenger Cushion and Backrest)
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มดันหลังปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (8-Way Power Adjustment Driver Seat with 4-Way Power Adjustment Lumbar Support)
  • เบาะผู้โดยสารด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (4-Way Power Adjustment Front Passenger Seat)
  • ฝาท้ายไฟฟ้า (Power Tailgate)
  • ช่องเก็บสัมภาระด้านหลังขนาดใหญ่ความจุ 329 ลิตร (329 L Vast Rear Trunk)
  • ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้ารถขนาด 71 ลิตร
  • พื้นห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ (Flat Rear Leg Room)
  • ปุ่ม Shortcut บนพวงมาลัย 2 ปุ่ม เลือกได้ 4 ฟังก์ชัน (Steering Wheel with 2 Shortcut Buttons and 4 Function Applicable)
  • ช่องแอร์อัจฉริยะแบบซ่อนปรับด้วยไฟฟ้า (Electric Hidden Intelligent Air Ventilation)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ 2 โซน (Dual-zone Auto A/C)
  • โหมดลมธรรมชาติ (Natural Wind Mode)
  • แผงควบคุมระบบปรับอากาศดา้ นหลังแบบสัมผัส (Rear touchscreen A/C Control Panel)

ระบบความปลอดภัยขั้นสูง

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC)
    – ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้า พร้อม Stop & Go
    – ระบบช่วยเตือนเหากเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
    – ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
    – ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
    – ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
    – ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
  • ระบบช่วยแจ้งเตือนมุมอับสายตา (BSD)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
  • ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง (RCW)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
  • ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนประตูขณะเปิด (DOW)
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (FAB)
  • ระบบช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า (SDW)
  • ถุงลมคู่หน้า (Front Airbags)
  • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Front Side Airbags)
  • ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา พรอมระบบแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง (360 Around View Camera with Transparent Chassis)
  • ระบบบันทึกวิดีโอการขับขี่ (Drive Video Recorder)

เช่นเดียวกับ Deepal S07 ตัวรถรุ่นนี้ ก็ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม EPA1 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ของ CHANGAN ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับ รถยนต์แบรนด์ DEEPAL เช่นกัน โดยเน้นพื้นฐานของการขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง (Rear Wheel Drive, RWD) มีการออกแบบให้มีการกระจายน้ำหนักที่สมดุลทั้ง 4 ล้อ (50:50)

เมื่อประกอบกับการให้ระบบช่วงล่างอิสระทั้ง 4 ล้อ โดยเฉพาะด้านหลังที่เลือกใช้วัสดุขึ้นรูปชิ้นส่วน H-ARM เป็นอลูมิเนียม น้ำหนักเบา ทำให้ตัวรถมีความสมดุลในการขับขี่ที่ สามารถให้สมรรถนะในการควบคุมที่ยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้แพลตฟอร์ม EPA1 มาพรอมระบบการจัดการแบตเตอรี่ดิจิทัลแบบ iBC (iBC Digital Battery Management) ซึ่งผสานการทำงานระหว่างการวิเคราะห์จากตัวรถและบนระบบคลาวด์ ทำให้มีความแม่นยำทั้งในด้านของการติดตามสุขภาพแบตเตอรี่ การเตือนภัยด้านความเสี่ยง และการจัดการระบบชาร์จแบตเตอรี่

โดยตัวรถรุ่นนี้ จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 66.8 kWh ซึ่งรองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 540 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าลูกเดี่ยว สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หลัง ให้กำลังสูงสุด 258 PS และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ซึ่งในตอนนี้ทางค่ายยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขสมรรถนะใดๆเพิ่มเติมว่ามันจะสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ดีแค่ไหน และความเร็วสูงสุดจะถูกจำกัดไว้ที่เท่าใด

และ Deepal L07 จะมีขนาดตัวถัง ความยาว x ความกว้าง x ความสูง : 4,820 x 1,890 x 1,480 ในหน่วยมิลลิเมตร, ระยะฐานล้อยาว 2,900 มิลลิเมตร, ระยะห่างระหว่างฐานล้อคู่หน้า-คู่หลัง 1,620 และ 1,630 มิลลิเมตร ตามลำดับ, ความสูงใต้ท้องรถ 150 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถเปล่า 1,820 กิโลกรัม ซึ่งจะเห็นได้ว่าขนาดตัวของมันนั้น อยู่ในระดับที่แทบจะใกล้เคียงกับ BYD Seal คู่แข่งสายตรงของมันเลยทีเดียว

ดังนั้น แม้จะยังไม่มีการประกาศราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยออพชันและขนาดตัวถังที่ใกล้เคียงกับคู่แข่งเช่นนี้ จึงทำให้มันควรถูกตั้งราคาที่ไม่หนีไปจากคู่แข่งเท่าไหร่นัก แต่จะถูกกว่าหรือแพงกว่า ก็ต้องรออัพเดทข้อมูลกันต่อไป จนกว่าจะถึงกำหนดวันประกาศขายจริง ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้แล้ว

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.