Lexus UX 2019 คอมแพ็คครอสโอเวอร์รุ่นเล็กสุดในค่ายเลกซัส เปิดตัว 3 ระดับ อันมาพร้อมขุมพลังเบนซินไฮบริด UX 250h มีราคาเริ่มต้น 2.49-3.62 ล้านบาท
ช่วงนี้ตลาดคอมแพ็คครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียมเริ่มดุเดือด โดยเมื่อปีที่แล้ว Volvo XC40 รถจากสวีเดนได้ออกขายด้วยราคาที่น่าคบหา ทำเอากวาดยองจองจากผู้บริโภคได้จำนวนมาก ล่าสุดคู่แข่งจากญี่ปุ่น Lexus UX ก็ไม่รอช้าที่จะเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่ง ด้วยการนำรถรหัส UX 250h ขุมพลังไฮบริด ที่ตกแต่งแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย เพิ่มตัวเลือกให้แก่ลูกค้าที่สนใจ
เลกซัส ยูเอ็กซ์ ได้รับการออกเเบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ให้ความรู้สึกปราดเปรียว เร้าใจ ภายในออกแบบอย่างปราณีต พิถีพิถัน ตามแบบหลักสรีรศาสตร์ ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำสมัย มอบความสะดวกสบายและเพลิดเพลินในการขับขี่ได้อย่างเต็มที่ ตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ได้อย่างดี
อีกประเด็นที่น่าสนใจของ เลกซัส ยูเอ็กซ์ ก็คือมันถูกสร้างบนสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) พร้อมด้วยการเชื่อมต่อตัวถังด้วยระบบเลเซอร์และการใช้อลูมินัมเข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ มีการทรงตัวดีเยี่ยม ควบคุมรถได้ดั่งใจ
ด้านหัวใจหลักในการขับเคลื่อนก็มีการติดตั้งระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 รุ่นล่าสุด ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้น มอบประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจ ตอบสนองได้ในทุกความคาดหวังของผู้ขับขี่
ขณะเดียวกัน ทางเลกซัสยังมอบความปลอดภัย Lexus Safety System Plus เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เพียบพร้อมด้วยระบบปกป้องและป้องกันอย่างครบถ้วน อาทิ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน และระบบแจ้งเตือนรถในมุมอับ รวมถึงอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้เลกซัส ยูเอ็กซ์ ยังมาพร้อมกับรุ่น F SPORT ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA จากรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์อย่าง Lexus LFA โดดเด่นด้วยชุดแต่งรอบคันและเบาะนั่งดีไซน์เฉพาะของ F SPORT ให้ความรู้สึกโอบกระชับ
สำหรับประเด็นการขับขี่มีระบบ Active Sound Control และระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน (Adaptive Variable Suspension) ที่ช่วยควบคุมการดูดซับแรงของโช้คอัพที่ล้อทั้งสี่ ให้ตอบสนองต่อการควบคุมของผู้ขับขี่และสภาพพื้นผิวถนนได้อย่างเหมาะสม เสริมการควบคุมและให้ความสะดวก สบายอย่างเหนือระดับ
The All-New Lexus UX250h มี 3 รุ่นย่อย 13 สีตัวถัง
| – Mercury Gray Mica | – Platinum Silver Metallic |
| – Sonic Titanium | – Black |
| – Graphite Black Glass Flake | – Madder Red |
| – Sonic Quartz* | – Amber Crystal Shine* |
| – White Nova Glass Flake** | – Heat Blue Contrast Layering** |
| *เฉพาะ Grand Luxury และ Luxury เท่านั้น **เฉพาะ F SPORT เท่านั้น |
สีใหม่ 3 สี
– Blazing Carnelian Contrast Layering (โทนสีส้ม)
– Terrane Khaki Mica Metallic (โทนสีเขียว)
– Celestial Blue (โทนสีฟ้า)
ราคา
Lexus UX 250h Luxury 2,490,000 บาท
Lexus UX 250h Grand Luxury 2,690,000 บาท
Lexus UX 250h F SPORT AWD 3,620,000 บาท
รายละเอียด Lexus UX250h
มิติภายนอก
| ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 4,495 x 1,840 x 1,520 |
| ความยาวฐานล้อ (มม.) | 2,640 |
| ความกว้างฐานล้อ หน้า / หลัง (มม.) | 1,560 |
| ความกว้างช่วงล้อ หน้า / หลัง (มม.) เฉพาะรุ่น F Sport | 1,550 |
พลังขับเคลื่อนที่ลงตัว จากพลังของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
♦ เครื่องยนต์ แรงเต็มอารมณ์สปอร์ต
| เครื่องยนต์ | 2.0-liter L-4 16-Valve, DOHC, VVT-iE (intake), VVT-i (exhaust) |
| ความจุกระบอกสูบ | 1,987 |
| กำลังสูงสุด | 146 แรงม้า / 6,000 รอบต่อนาที |
| แรงบิดสูงสุด | 188 นิวตันเมตร / 4,400 – 5,200 รอบต่อนาที |
| ระบบเชื้อเพลิง | EFI (Electronic Fuel Injection System) |
| ค่าอ๊อคเทนน้ำมัน | 91 or Higher (E10) |
♦ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูง
| ประเภท | Synchronous alternating current motor (Permanent magnet type) |
| แรงดันไฟฟ้าสูงสุด | 216 โวล์ต |
| กำลังสูงสุด | 80 กิโลวัตต์ / 109 แรงม้า |
| แรงบิดสูงสุด | 202 นิวตันเมตร |
| กำลังรวมทั้งระบบ | 130 / 184 แรงม้า |
♦ ภายนอก โดดเด่นสะกดทุกสาย
– ไฟหน้า LED แบบ ultra-compact 3-eye Bi-Beam พร้อมไฟท้าย LED สวยสะดุดตา
พร้อม DRL (Daytime Running Lamp) LED
– หลังคามูนรูฟพร้อมระบบการเอียง/เลื่อนด้วยไฟฟ้า (ในรุ่น F Sport)
– มือจับประตูพร้อมไฟส่องสว่างบริเวณเท้า เพื่อง่ายต่อการมองเห็นยามค่ำคืน
– กระจังหน้าแบบ Spindle Grille…โฉบเฉี่ยว ดุดัน สะกดทุกสายตา
♦ ภายใน หรูหรา สะดวกสบาย
– มาตรวัดแสดงผลแบบ Digital
– จอแสดงผลสี TFT (Thin Film Transistor) แสดงข้อมูลการขับขี่อย่างสมบูรณ์แบบ
– ระบบปรับอุณหภูมิอัจฉริยะของเลกซัส
– แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย Wireless charger
– เบาะหน้าไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทางพร้อมเบาะนั่งที่มีระบบระบายอากาศ (ในรุ่น F Sport)
♦ ระบบการทำงาน ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
– ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
– พวงมาลัยไฟฟ้าปรับระดับ 4 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันปรับออกอัตโนมัติ/กลับคืนอัตโนมัติ
– โหมดเลือกการขับขี่ที่มีโหมด Custom
– สวิตช์จดจำตำแหน่ง (เบาะคนขับ) 3 ตำแหน่ง
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
– ระบบสมาร์ทเอ็นทรีและระบบสตาร์ท
– จอแสดงผล EMV (Electro Multi-Vision) ขนาด 10.3 นิ้ว พร้อมการควบคุมรีโมทแบบสัมผัส
– จอแสดงผล Head-up display จอแสดงผลสีแบบสะท้อนลงบนกระจกหน้ารถ
– ระบบเสียงที่เหนือชั้นของเลกซัส UX พร้อมวิทยุ AM/FM, เครื่องเล่น DVD ที่แผงคอนโซล,
ลำโพง 8 ตัว, รองรับการเล่น MP3 และ WMA (Windows Media Audio), DSP (Digital
Signal Processor), ASL (Automatic Sound Levelizer)
– ฟังก์ชัน Bluetooth พร้อมกับการโทรผ่านระบบแฮนด์ฟรี, การเชื่อมต่อไร้สายกับเครื่องเล่นที่
รองรับ AV-profile
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติและตัวควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระสำหรับเบาะหน้า, กรองอากาศ
ที่มีฟังก์ชันการกำจัดฝุ่นละอองและกลิ่นไม่พึงประสงค์
♦ ความปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทาง
– ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง (Lane Keeping Assist : LKA) ส่งสัญญานเตือน หากพบการ
ขับออกนอกเลน พร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย
– ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบช่วยรักษาความเร็วรถให้คงที่ และสัญญาณเรดาร์จะตรวจหาและรักษาระยะห่างจากรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า
– ระบบป้องกันก่อนการชน (Pre-Crash Safety System) ด้วยสัญญาณเรดาร์และกล้อง โดยจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ หากตรวจพบความเป็นไปได้ที่จะเกิดการชนทางเท้า รวมทั้งสั่งการทำงานของระบบเบรก
– ระบบปรับไฟสูง-ต่ำ อัจฉริยะ (Adaptive High-Beam System) ปรับไฟและกระจายแสง
อัตโนมัติเพื่อวิสัยทัศน์ที่ดีที่สุด
– ระบบช่วยเตือนจุดบอดและระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Blind Spot Monitor System และ Rear Cross Traffic Alert) สัญญาณเรดาร์แบบ Quasi-millimeter บริเวณกันชนหลังจะส่งสัญญาณเตือนหากพบรถที่วิ่งอยู่เลนข้างๆ ในตำแหน่งที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้หรือพบสิ่งกีดขวางด้านหลังในขณะถอยรถ
– ระบบแสดงสภาพมุมสูง Panoramic view monitor บนหน้าจอ EMV และสามารถขยายภาพเพื่อดูตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น
– ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
– ระบบป้องกันการลื่นไถล (Traction Control System)
– ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ (Vehicle Stability Control)
– ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Brake System) พร้อมระบบกระจาย
แรงเบรกไฟฟ้า (Electronic Brake force Distribution)
– ระบบช่วยแจ้งเตือนขณะจอดรถ (Parking Support Alert)
– กระจกลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ (กระจกมองหลังและกระจกมองข้าง)
– ถุงลมเสริมความปลอดภัยแบบ Dual-stage SRS (Supplemental Restraint System)
(สำหรับที่นั่งตอนหน้า)
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS บริเวณหัวเข่าและด้านข้าง (สำหรับที่นั่งตอนหน้า)
– ม่านถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS (สำหรับกระจกประตูหน้าและหลัง)
– เบาะหน้าที่มาพร้อมระบบป้องกันการบาดเจ็บบริเวณกระดูกต้นคอเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง(WIL)
– เข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด (เบาะนั่งทั้งหมด)
– แท่นยึดสำหรับติดตั้งที่นั่งเด็กแบบ ISOFIX-compliant (ผู้โดยสารด้านหลัง)
– จุดยึดสายรัดด้านบนเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก (Child Restraint System)
– ระบบป้องกันการโจรกรรมแบบ immobilizer พร้อมสัญญาณเตือน
– ระบบการเตือนตำแหน่งแรงดันลมยางต่ำอัตโนมัติ (Auto Location-Tire Pressure Warning
System (AL-TPWS))
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
