บางคนพลาดโอกาสจับจองซีดานผู้บริหารเครื่องดีเซลจากค่ายตราดาวรหัส อี คลาส แต่วันนี้ Mercedes-Benz E220d Sport กลับมาอีกครั้งด้วยราคา 3.33 ล้านบาทเท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 ตอนนั้นเบนซ์ไทยเปิดตัวรถซีดานระดับผู้บริหารหัวใจดีเซล E220d ที่มีตั้งแต่ระดับ Avantgarde, Exclusive และ AMG เรียกยอดจองจากบรรดาเศรษฐีหัวใจแรงได้ไปจำนวนมาก และหลังจากนั้นไม่นานรหัส E350e Plug-in Hybrid มาก็มาแทนที่ทำเอาหลายคนเสียดายกันไปตามๆ กัน
ล่าสุดทางเบนซ์เอาใจลูกค้าคอดีเซลด้วยการเปิดตัว Mercedes-Benz E220d Sport ด้วยราคา 3.33 ล้านบาท เพียงรุ่นย่อยเดียวเท่านั้น แน่นอนว่ามันมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ รหัส OM 654 ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. จากโรงงานไว้ที่ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
ส่วนใครที่คิดว่าอยากเป็นเจ้าของ E-Class E350e ล่ะก็ ทางเบนซ์ได้อัพเดทเพิ่มอุปกรณ์หลายอย่างให้ทุกรุ่นย่อย เริ่มจาก
รุ่น E 350 e Avantgarde ราคา 3.54 ล้านบาท เพิ่ม
- ระบบกันสะเทือนแบบ Agility Control
- หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit
- ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’
รุ่น E 350 e Exclusive ราคา 3.79 ล้านบาท เพิ่ม
- ระบบกันสะเทือนแบบ Agility Control
- ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO
- ระบบช่วยปิดประตู (power closing for front and rear doors)
- ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’
รุ่น E 350 e AMG Dynamic ราคา 4.19 ล้านบาท เพิ่ม
- ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ E-Class ทุกรุ่นเครื่องยนต์ของโฉมปี 2019 ก็คือ เบนซ์ได้ติดตั้งฟีเจอร์ ‘Mercedes me connect’ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อันโดดเด่นมากมาย อาทิ
- Mercedes-Benz emergency call system บริการที่จะคอยช่วยเหลือคุณจากสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในขณะที่คุณได้รับอุบัติเหตุ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จะทำการติดต่อไปยัง Emergency Customer Contact Center ศูนย์บริการฉุกเฉิน ที่จะช่วยประสานงานด้านความปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือให้คุณได้รับความปลอดภัยสูงสุด
- ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ Telediagnostics ด้วยบริการ Remote Retrieval of Vehicle Status ที่จะคอยรายงานสถานะของรถยนต์ไปยัง Mercedes me และด้วยบริการ Telediagnostics ที่จะคอยส่งข้อมูลและสถานะของรถยนต์ไปยังศูนย์บริการที่คุณเลือกเมื่อตรวจพบความเสียหายเพื่อให้คุณได้รับการซ่อมบำรุงที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุด
ระบบตั้งค่ารถยนต์ (Pre-installation for Vehicle Set-up) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารด้วยโทรศัพท์มือถือ (Remote Engine Start for Pre-entry Climate Control) ปลอดภัยไปอีกขั้นกับระบบ Remote Door Lock/Unlock ที่ช่วยให้คุณ สามารถล็อกรถได้จากทุกที่ทั่วโลก ให้คุณไร้ความกังวลเรื่องความปลอดภัยและ มั่นใจได้ว่ารถยนต์ของคุณจะอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg src=”galleries” ids=”1168″ display=”basic_thumbnail”]