ค่ายดาวเหนืออย่าง Polestar ในเครือ Volvo ปรับโฉมใหม่เก๋งไฟฟ้าที่ทำตลาดมานานและต้องการสร้างสีสันให้กับแฟนพันธุ์แท้

การปรับโฉมครั้งนี้เท่กว่าเดิมเริ่มจากกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบทรงปิดทึบพร้อมกล้องแบบ SmartZone เป็นกล้องมองภาพและกล้องรวมการทำงานของระบบเรดาร์บางส่วนติดตั้งมาด้วย

ไฟหน้า LED ดีไซน์ค้อน Thor’s Hammer ปรับใหม่มพร้อมระบบ Pixel LED headlights และปรับไฟสูงอัตโนมัติ adaptive high beam กับไฟตัดหมอกหน้า LED ล้ออัลลอยฟอร์จลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางจากค่าย Michelin แบบ all-season

แต่ขุมพลังมีการปรับใหม่ตัดรุ่นขับหน้าทิ้งมาเป็นรุ่นขับหลังแถมปรับกำลังรุ่นขับสี่ เริ่มกันที่รุ่นเริ่มต้น มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวมีความจุแบตเตอรี่ 69 kWh 272 แรงม้า แรงบิด 490 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 518 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.4 วินาที

ส่วนรุ่น Long Range มีสองแบบทั้งแบบขับหลัง เพิ่มความจุแบตเตอรี่มาเป็น 82 kWh 299 แรงม้า แรงบิด 490 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดเป็น 635 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.2 วินาที

รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่กับความจุแบตเตอรี่ 82 kWh 427 แรงม้า แรงบิด 740 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 592 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.5 วินาที

ปิดท้ายด้วยรุ่นบ้าพลัง Performance Pack ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่กับความจุแบตเตอรี่ 82 kWh 476 แรงม้า แรงบิด 740 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดเป็น 592 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.2 วินาที

ทั้งสี่รุ่นที่กล่าวมา การชาร์จแตกต่างกันเริ่มที่ชาร์จกระแสตรง DC 10-80%  กำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 135 kW ภายในเวลา 34 นาที ในรุ่นเริ่มต่้น

ส่วนรุ่น Long Range ชาร์จ DC 10-80%  กำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 205 kW ภายในเวลา 28 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC กำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW ในเวลา 7 ชั่วโมง ในรุ่นเริ่มต้น และ 8 ชั่วโมง ในรุ่น Long Range เบื่องต้นจำหน่ายและส่งมอบทั่วโลกไตรมาสสามของปีนี้