แม้จะไม่มีรุ่นตัวแรง ติดรหัส STI ออกมาจากโรงงาน แต่ Subaru WRX และคู่แฝด Subaru Levorg ก็ยังคงมีรหุ่นพิเศษติดชุดแต่ง STI ถูกเผยโฉมออกมาเรื่อยๆ และล่าสุดคือ STI Sport R-Black Limited Editions ที่เราเห็นกันอยู่ในตอนนี้
Subaru WRX STI Sport R-Black Limited Edition และ Subaru Levorg STI Sport R-Black Limited Edition มาพร้อมกับการตกแต่งพิเศษในหลายๆจุดเพื่อให้มันดูแตกต่างจากตัวรถทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนภายนอกตัวรถ และการตกแต่งภายใน
โดยในส่วนการตกแต่งภายนอก ก็จะมีทั้งในส่วนของ ครอบกระจกมองข้างสีดำ เสาวิทยุทรงครีบฉลามสีดำ และชุดล้ออัลลอยด์สีดำ พร้อมจบงานด้วยสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งของชิ้นหลังสุดอาจจะไม่ใช่ของใหม่ เพราะมีให้เลือกเป็นออพชันเสริมในตัวรถรุ่นย่อยอื่นๆ แค่คราวนี้ใส่มาให้เสร็จสรรพตั้งแต่ออกโรงงานเลยก็เท่านั้น
นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมกับเฉดาีภายนอกให้เลือกซื้ออีก 8 แบบด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นคือสีม่วง Galaxy Purple Pearl ซึ่งเป็นเฉดสีเฉพาะของตัวรถรุ่นนี้ และทางค่ายก็เคยใช้ไปแล้วกับตัวรถ Subaru WRX tS และ BRZ ที่วางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้ว
ภายในห้องโดยสารเอง ก็เน้นโทนการตกแต่งสีดำตามชื่อรุ่น โดยคราวนี้ มันจะมาพร้อมกับเบาะ Recaro สีดำพร้อมหุ้มหนัง Ultra-Suede และเพิ่มความโดดเด่นด้วยการเดินตะเข็บด้ายสีแดง กับการปั๊มลาย STI นูนลงไปบนหัวหมอน โดยตัวเบาะฝั่งผู้ขับจะมีลูกเล่นระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
นอกจากนี้ตามชิ้นส่วนตกแต่งต่างๆรอบห้องโดยสาร ด้วยวัสดุหนัง Suede เช่นกัน ทั้งที่คอนโซลหน้า ช่องเก็บของ และแผงประตู ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดล้วนถูกเดินด้ายสีแดงด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ แม้จะมีการติดรหัส STI แต่ใต้ฝากระโปรงของมัน ยังคงมาพร้อมกับขุมกำลัง 4 สูบนอน ขนาด 2.4 ลิตร พ่วงเทอร์โบ ลูกเดิม ที่ไม่ได้มีการปรับจูนอะไรใดๆให้มีแรงม้าสูงขึ้นจากที่เคยเป็นคือ 275 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร และยังคงจับคู่กับชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่สามารถล็อคอัตราทดได้ 8 สปีด ในการขับด้วยโหมดแมนวล ก่อนส่งกำลังไปยังชุดล้อทั้งสี่ด้วยระบบควบคุมการทำงานแบบ Symmetrical All Wheel Drive
ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะมีการเปิดตัวเลขเริ่มต้นที่ 5,302,000 เยน หรือราวๆ 1,180,000 บาท ในฝั่งตัวรถร่างซีดาน ซึ่งจะมีการจำกัดจำนวนการผลิตเพียง 250 คันต่อเดือน และในฝั่งร่างแวกอน ก็จะสนนราคาวางจำหน่ายที่ 5,368,000 หรือราวๆ 1,195,000 บาท ด้วยจำนวนการผลิตที่ราวๆ 900 คันต่อเดือน ซึ่งหมายถึงแค่เฉพาะการผลิตเพื่อขายในญี่ปุ่นเท่านั้น
