Toyota bZ3X รถอเนกประสงค์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุด เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศจีน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียงแค่ราวๆ 512,000 บาท และหากเป็นรุ่นท็อปสุดก็มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 610 กิโลเมตร/ชาร์จ

หลังจากที่ไม่ได้มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% ใดๆออกมาเลยกว่า 2 ปี ในที่สุด Toyota ก็ได้มีการเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่อย่าง Toyota bZ3X ออกมา และคราวนี้พวกเขายังคงทำมันขึ้นโดยอาศัยความร่วมมือกับบริษัทคู่ค้าในการพัฒนาดังเดิม เช่นเดียวกับ Toyota bZ4X ที่ทำงานร่วมกับ Subaru, Toyota bZ3 ที่ทำงานร่วมกับ BYD และล่าสุดสำหรับเจ้ารถน้องใหม่คันนี้ ก็เป็นการทำงานร่วมกับ GAC
ดังนั้น มันจึงอาจจะดูไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก หากเราจะพบว่ารูปทรงตัวถังของตัวรถ ค่อนข้างมีความเป็นรถทรงกล่องคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ GAC AION แต่ด้วยความเป็นรถยนต์ในตระกูล bZ-Series ดังนั้นมันจึงยังคงใช้งานออกแบบหน้ารถในแบบ Hammer Head อันเป็นเอกลักษณ์ดังเดิม ส่วนด้านท้ายรถ กลับให้ความรู้สึกทีท่คล้ายคลึงกันกับรถอเนกประสงค์ PPV ที่ชาวไทยคุ้นตามากกว่าอย่าง Toyota Fortuner เสียอย่างนั้น
ส่วนขนาดตัวรถเอง ก็มีการเปิดเผยว่า มันจะมีมิติในด้านยาวที่ 4,600 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 1,875 มิลลิเมตร, และดด้านสูง 1,645 มิลลิเมตร กับระยะฐานล้ออีก 2,765 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดตัวที่เล็กกว่า Toyota bZ4X ลงมาเล็กน้อย ขณะที่น้ำหนักตัวรถก็มีการเคลมเอาไว้ว่าจะอยู่ที่ราวๆ 1,835 กิโลกรัม
ส่วนภายในห้องโดยสาร เน้นงานออกแบบที่ดูเรียบง่าย แต่กว้างขวาง โดดเด่นด้วยเบาะนั่งโดยสารขนาดใหญ่ ซึ่งเบาะคู่หน้าสามารถถอดหัวหมอนแล้วปรับเอนนอน 180 องศาได้, คอนโซลหน้าโล่ง และสะอาดตา โดยปุ่มกดที่ให้มา มีเพียงแค่ปุ่มเปิดไฟฉุกเฉินตรงกลาง กับปุ่มสตาร์ทรถใกล้แนวคอพวงมาลัย และใส่ฟังก์ชันลูกเล่นต่างๆของตัวรถให้ปรับแต่งได้ในหน้าจอขนาด 14.6 นิ้ว ทั้งหมด ทำงานร่วมกับชุดลำโพง Yamaha 11 ตำแหน่ง ขณะที่จอแสดงผลข้อมูลตัวรถสำหรับผู้ขับเองก็มีขนาด 8.8 นิ้ว ซึ่งชุดจอที่ว่านี้ ก็เป็นจอแบบเดียวกันกับที่อยู่ใน GAC AION Y Plus
อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ให้มา หากไม่นับระบบพื้นฐานที่ควรมีเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ตัวรถก็จะได้รับการติดตั้งชุดกล้องจับภาพวัตถุรอบคัน 11 ตำแหน่ง, เรดาร์ระบบอัลตร้าโซนิค 12 ตำแหน่ง, เรดาร์คลื่นสั้น และ LiDar Sensor อีก อย่างละ 1 ตำแหน่ง โดยทั้งหมดจะใช้ชิพ Nvidia Drive AGX Orin X เป็นหัวใจหลักในการประมวลผลข้อมูลจากเซนเซอร์ข้างต้น สำหรับระบบ ADAS กว่า 25 ฟังก์ชันที่ถูกใส่เข้ามา
ด้านราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็ได้มีการประกาศออกมาตามรุ่นย่อยที่มีให้เลือก ทั้ง
- รุ่น 430 Air ราคา 109,800 หยวน หรือราวๆ 512,000 บาท ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 50.3 kWh รองรับระยะทางในการวิ่งไกลสุด 430 กิโลเมตร/ชาร์จ มาตรฐาน CLTC
- รุ่น 430 Air+ ราคา 119,800 หยวน หรือราวๆ 557,700 บาท ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 50.3 kWh รองรับระยะทางในการวิ่งไกลสุด 430 กิโลเมตร/ชาร์จ มาตรฐาน CLTC
- รุ่น 520 Pro ราคา 120,980 หยวน หรือราวๆ 563,300 บาท ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 58.37 kWh รองรับระยะทางในการวิ่งไกลสุด 520 กิโลเมตร/ชาร์จ มาตรฐาน CLTC
- รุ่น 520 Pro+ ราคา 139,800 หยวน หรือราวๆ 650,700 บาท ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 58.37 kWh รองรับระยะทางในการวิ่งไกลสุด 520 กิโลเมตร/ชาร์จ มาตรฐาน CLTC
- รุ่น 610 Max ราคา 159,800 หยวน หรือราวๆ 744,000 บาท ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 67.92 kWh รองรับระยะทางในการวิ่งไกลสุด 610 กิโลเมตร/ชาร์จ มาตรฐาน CLTC
โดยตัวรถทุกรุ่นย่อย จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าลูกเดี่ยว กำลังขับสูงสุด 204 แรงม้า เว้นเพียงรุ่น 610 Max ที่จะได้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงขึ้นอีกนิดเป็น 224 แรงม้า เพื่อให้มันพอเหมาะพอเจาะกับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่าใคร