Toyota Fortuner คือรถอเนกประสงค์ที่ใครหลายคนให้การยอมรับ ไม่เว้นแม้กระทั่งหน่วยงานรัฐและเอกชน และวันนี้ทางค่ายก็ได้มีการเปิดรุ่นย่อยใหม่ Leader S ซึ่งทำให้เราสามารถจับต้องมันได้ง่ายขึ้นด้วย

Toyota Fortuner Leader S คือตัวรถรุ่นย่อยใหม่ล่าสุด ที่ทาง Toyota ทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนสามารถจับต้องรถยนต์ตระกูล Fortuner ได้ง่ายขึ้น จากราคาที่ถูกที่สุดด้วยตัวเลขเพียง 1,239,000 บาท เท่านั้น

โดยหากมองในอีกมุมหนึ่ง มันก็คือรุ่นล่างสุด ที่ถูกตัดและปรับออพชันหลายอย่าง เพื่อให้มันสามารถทำราคาในช่วงตัวเลขดังกล่าวได้ ซึ่งหากมองจากภายนอก เราก็จะพบว่ามันมาพร้อมกับการตกแต่งชิ้นส่วนรอบคันที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เช่น ราวหลังคาที่ถูกตัดไป และชุดล้ออัลลอยด์ที่ถูกเปลี่ยนใหม่ จากแบบขอบ 18 นิ้ว เป็นขอบ 17 นิ้ว

แต่นอกนั้นยังคงมาพร้อมกับ ไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED พร้อม Daytime Running Lights และไฟตัดหมอกหน้าแบบ LEDและไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เช่นเดียวกับรุ่นสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็น Leader G หรือ Leader V

ในส่วนภายในห้องโดยสารเอง ก็มีการตัดออพชันระบบปรับตำแหน่งเบาะผู้ขับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางออกไป เปลี่ยนวัสดุหุ้มเบาะโดยสาร จากหนังสังเคราะห์ เป็นผ้า เช่นเดียวกับบริเวณแผงข้างประตู

นอกนั้นในส่วนคอนโซลหน้า แม้จะยังคงใช้หนังสังเคราะห์ แต่จะไม่มีการเดินแนวตะเข็บเอาไว้เพื่อความสวยงาม (แต่ก็ดุสะอาดตาไปอีกแบบ), หัวเกียร์ ก็เปลี่ยนมาหุ้มด้วยวัสดุยูรีเทน รวมถึงตัวพวงมาลัยเองก็ได้ แถมในคราวนี้ยังมีการตัดตัวแป้นแพดเดิ้ลชิฟท์ออกไปอีก ไม่เพียงเท่านั้น ตัวปุ่ม Push Start ก็ยังถูกถอดหายไปเช่นกัน และต้องใช้ระบบกุญแจบิดสตาร์ทดังเดิม

แต่ทั้งนี้ ในส่วนของระบบหน้าจอมาตรวัดแบบลูกผสมกึ่งอนาล็อค+ดิจิตอลด้วยหน้าจอ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว และชุดจอระบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบ T-Connect รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธ หรือ สาย USB เพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นระบบ Apple CarPlay และ Android Auto, ชุดลำโพง 6 ตำแหน่ง ยังคงมีมาให้ตามเดิม

ส่วนระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานยังคงมีมาให้ครบครัน ทั้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System), ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control), ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Brake System), ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist), ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake-force Distribution), ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (Trailer Sway Control), ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-start Assist Control), และยังคงมีถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง (7 Airbags) มาให้ดังเดิม

และในส่วนของระบบ BSM (Blind Spot Monitor) กับ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) และ กล้อง 360 องศา ก็ได้ถูกถอดออกไปทั้งหมด เหลือเพียงกล้องหลังเท่านั้น รวมถึงระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยางก็ถูกติดออกไปด้วย

ขุมกำลังตัวรถ ยังคงเป็นเครื่องยนต์ 2GD-FTV (High) 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ความจุ 2,393cc กำลังสูงสุด 150 PS ที่ 3,400 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ไปยังชุดล้อคู่หลัง

ระบบกันสะเทือนด้านหน้า ยังคงเป็นแบบ แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลัง ก็ยังคงเป็นแบบโฟร์ลิงค์ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ดังเดิม

โดย Toyota Fortuner Leader S พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ด้วยราคา 1,239,000 บาท และมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ สีดำ Attitude Black Mica, สีเงิน Silver Metallic และสีสุดท้าย ที่ต้องเพิ่มเงินอีก 12,000 บาท นั่นคือ สีขาวมุก Platinum White Pearl