Kia AD

Home » Toyota GR Supra A90 Final Edition โมเดลพิเศษก่อนสั่งลา จำกัด 300 คันบนโลก

Kia AD

Suzuki AD

รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

Toyota GR Supra A90 Final Edition โมเดลพิเศษก่อนสั่งลา จำกัด 300 คันบนโลก

แม้จะระบุว่า Toyota GR Supra จะยังคงได้ไปต่อ แต่ในขณะเดียวกัน ตัวรถโฉมปัจจุบันนี้เองก็ใกล้หมดวาระทำตลาด และถึงจังหวะของการเผยโฉมอำลา “A90 Final Edition” ออกมาสักที

Toyota GR Supra A90 Final Edition คือตัวรถรุ่นพิเศษโฉมสั่งลาร่างปัจจุบันของรถสปอร์ตตระกูลดัง “Supra” ซึ่งความพิเศษของมันคราวนี้ ก็ไม่ได้มีแค่เพียงการแต่งหน้าทาปากด้วยสติ๊กเกอร์ง่ายๆแต่อย่างใด ทว่ามาพร้อมกับการติดตั้ง และปรับแต่งชิ้นส่วนเสริมสมรรถนะเข้าไปหลายจุด เพื่อให้มันมีขีดความสามารถในการใช้งานที่ดีกว่ารถร่างปกติด้วย

เริ่มจาก เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร ที่ได้ถูกปรับจูนใหม่ในหลายๆจุด ทั้ง ปรับปรุงท่อเดินอากาศขนาเข้า, ปรับปรุงตัวแคทตาไลติกใหม่ ให้มีความอั้นน้อยลง ระบายไอเสียได้ดีขึ้น เปลี่ยนชุดท่อไอเสียช่วงหม้อพักถึงปลายเป็นแบบไทเทเนียมจาก Akrapovic และแน่นอนว่าจะต้องมีการปรับจูนกล่อง ECU ใหม่ เพื่อให้รับกับชิ้นส่วนที่เปลี่ยนไป

ผลที่ได้คือขุมกำลังของมัน จะสามารถทำกำลังได้มากขึ้น จาก 340 PS เป็น 435 PS และแรงบิดสูงสุดเอง ก็เพิ่มขึ้นจาก 500 นิวตันเมตร เป็น 570 นิวตันเมตร และยังทำให้ความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็น 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง

และเพื่อให้ขุมกำลังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง อ่างน้ำมันเครื่องจึงถูกเพิ่มครีบกันกระฉอกไว้ด้านใน เพื่อลดความเสี่ยงที่น้ำมันเครื่องอาจถูกเหวี่ยงไปกองในจุดอื่นที่ฝักบัวไม่สามารถดูดน้ำมันเครื่องได้ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง, ติดตั้งพัดลมหม้อน้ำขนาดใหญ่ขึ้น, เพิ่มหม้อน้ำสำรองอีกชุด, และเพิ่มแผ่นครีบระบายความร้อนที่เสื้อกระปุกเกียร์

นอกจากความแรง ในด้านสมรรถนะการเข้าโค้งเอง ก็เป็นอีกจุดที่ได้รับการปรับปรุง เริ่มจาก การเปลี่ยนชุดโช้กอัพเป็นของ KW ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่อยู่ในตัวแข่ง GR Supra GT4 ดังนั้น มันจึงมาพร้อมกับฟังก์ชันในการปรับเซ็ทค่าความหนืดในการยืดยุบด้วยมือทั้ง การปรับค่ารีบาวน์ 16 ระดับ และ คอมเพรสชัน 12 ตำแหน่ง รวมถึงมีการปรับเซ็ทมุมแคมเบอร์ของชุดล้อคู่หน้า-คู่หลังใหม่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างแรงยึดเกาะขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงที่มากขึ้น

และยังมีการปรับปรุงระบบควบคุมเฟืองท้ายไฟฟ้าใหม่ เพื่อลดอาการหน้าดื้อขณะเข้าโค้งให้ต่ำลง, ปรับปรุงการทำงานของชุดพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่ ให้มีความเฉียบคม แม่นยำขึ้น และยังมีการเสริมความแข็งแรงของตัวถังด้วยการเพิ่มโครงเหล็กกากบาทในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังและเสริมความแข็งแรงของชุดแพหลังอลูมิเนียมเพิ่ม ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ยกมาจากตัวแข่ง GR Supra GT4 เช่นกัน และยังมีการเพิ่มความแข็งของเหล็กกันโคลงหน้าหลังเพิ่มอีก

หากไม่พอ ตัวรถยังมาพร้อมกับชุดล้อน้ำหนักเบา ขนาด 19 นิ้ว และ 20 นิ้ว ตามลำดับหน้า-หลัง พร้อมรัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ที่มีขนาดหน้ากว้างมากขึ้นอีก 10 มิลลิเมตร แถมยังมาพร้อมเนื้อยางที่เหนียวหนึบกว่าเดิมด้วย

ท้ายสุด คือการอัพเกรดในฝั่งระบบเบรก ซึ่งเปลี่ยนมาใช้จานเบรกเซาะร่องพร้อมเจาะรูจาก Brembo ทำงานร่วมกับผ้าเบรกที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น รวมถึงปรับเปลี่ยนสายเบรกใหม่ ให้กลายเป็นสายเบรกถัก เพื่อลดการสูญเสียแรงดันน้ำมันในระบบขณะกดเบรก

หลังการอัพเกรดช่วงล่างและเครื่องยนต์ อีกสิ่งที่ลืมไม่ได้คือการเสริมศักยภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ซึ่งทาง Toyota ลงทุนนำรถไปเข้าอุโมงค์ลมของ TOYOTA GAZOO Racing Europe (TGR-E) ซึ่งเป็นทีมพัฒนาตัวแข่งของ Toyota ในยุโรป ที่เคยพัฒนาตัวแข่ง GR Supra GT4

และผลที่ได้คือ ตัวรถก็มาพร้อมกับชุดสปอยเลอร์หน้า, คานาร์ด หรือ ครีบรีดอากาศด้านข้างกันชนหน้า, ชายล่างข้างตัวถังใหม่, แผ่นดิฟฟิวเซอร์ด้านล่างกันชนท้าย และสปอยเลอร์หลัง ยึดเข้ากับฝากระโปรงท้ายด้วยขาอลูมิเนียมแบบคอห่าน ซึ่งเกือบทั้งหมดถูกทำด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เช่นเดียวกับตัวดักลมบนฝากระโปรง ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นกัน แล้วจึงค่อยจบงานตัวถังด้วยการทำสีดำด้านสุดพิเศษเฉพาะตัวรถรุ่นนี้เท่านั้น

ฝั่งภายในห้องโดยสาร มีการเสริมความพิเศาด้วยเบาะนั่งบัคเก็ทซีทเต็มระบบ RECARO Podium CF ซึ่งถูกหุ้มด้วยหนังอัลคันทาร่าสีแดง, เปลี่ยนสายเข็มขัดนิรภัยเป็นสีแดง และมีการหุ้มหนังอัลคันทาร่าที่พวงมาลัย รวมถึงหัวเกียร์ เพื่อเพิ่มความกระชับในการควบคุมตัวรถขณะขับขี่ขอบผู้ขับด้วย

ทั้งนี้ ตัวรถ Toyota GR Supra A90 Final Edition จะถูกผลิตขึ้นมาเพียง 300 คันบนโลกเท่านั้น และเบื้องต้นถูกระบุว่าจะมีการวางจำหน่ายแค่เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น และยุโรปเท่านั้น

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.