หลังการปรับโฉมใหญ่ของ Toyota Yaris Ativ ครั้งใหญ่ไปเมื่อปีก่อน ตอนนี้ Toyota Yaris 2023 ก็ถึงเวลาที่จะต้องปรับโฉมด้วยเช่นกัน แต่เป็นการปรับในระดับ Minor Change ที่อาจไม่มากมาย แต่ก็ทำให้ตัวรถดูน่าใช้มากยิ่งขึ้น
Toyota Yaris 2023 มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนรายละเอียดใหม่หลักๆ 3 ส่วนด้วยกัน ดังนี้
1. การดีไซน์ภายนอก ธีมการออกแบบ Refined & Energetic ให้ความรู้สึกปราดเปรียวน่าขับขี่
- “Hammerhead Design” เทรนด์ใหม่ล่าสุดของ TOYOTA
- ไฟหน้า Projector LED แนวคมเข้ม ผสานกับ Daytime Running Light พร้อมดีไซน์ “Secondary Illumination” ที่ทำให้รู้สึกพุ่งทะยานไปข้างหน้า
- กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ แบบ “Diffuser Style” พร้อมตกแต่งด้วยลาย Carbon fiber
- สีภายนอกใหม่ “Cement Gray Metallic” ที่โดดเด่น พร้อมสีทูโทน ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับรถได้เป็นอย่างดี
- ดีไซน์ภายในด้วยวัสดุคุณภาพสูงสำหรับเบาะนั่ง พร้อมโทนสีที่หลากหลาย อย่าง “Orchid brown” ซึ่งดีไซเนอร์ได้เลือกใช้โทนสีดำ สลับกับสีน้ำตาล และเลือกใช้ “Accent ribbon” สีน้ำตาลอ่อนให้ความรู้สึกเรียบหรู น่าค้นหา
2. ฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย เพื่อความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- “Toyota Safety Sense” เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า
- Blind Spot Monitor (BSM) (เฉพาะรุ่น Premium, Premium S)
- Rear cross-Traffic Alert (RCTA) (เฉพาะรุ่น Premium, Premium S)
- กล้องมองรอบคัน (เฉพาะรุ่น Premium, Premium S)
- เพิ่มขนาดหน้าจอสัมผัส ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Premium S)
- ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ USB type C เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร (เฉพาะรุ่น Premium S)
3. ความคุ้มค่า เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ได้แก่
- ไฟหน้าแบบ Projector LED
- ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ USB type C สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- แตร “Trumpet Horn”
- หน้าจอแบบสัมผัส
นอกนั้นในส่วนรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของตัวรถ ล้วนยังคงเดิม ตั้งแต่เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 92 PS ที่ 6,000 รอบ/นาที กับ แรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ Super CVT-i พร้อมระบบ Shift-Lock และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
ระบบกันสะเทือนก็ยังคงเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหน้า กับ ทอร์ชันบีม และคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ทางด้านหลัง ส่วนระบบเบรกก็เป็นแบบด้านหน้าดิสก์ ด้านหลังดรัม และชุดล้อ 15 นิ้ว แม้จะเป็นลายใหม่ แต่ก็รัดด้วยยางไซส์เดิม คือ 185/60 R15
นายณัทธร ศรีนิเวศน์ รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแผนการขายและการตลาดรถยนต์รุ่นนี้ว่า “TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่คันนี้จะกลับมาสร้างกระแส และยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับรถแฮทช์แบ็คอีกครั้ง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ตามสโลแกน “Open Up Your Life” “เปิดโลกใหม่ได้อีกเยอะ”
สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง ของคนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์สปอร์ตล้ำสมัย ทั้งภายนอก และภายใน มาพร้อมแพคเกจชุดแต่งที่ตอบสนองความต้องการ อันหลากหลายของกลุ่มลูกค้า มีให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ “เรียบหรู สปอร์ต หรือ พรีเมียม” โดยสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายในราคาพิเศษ พร้อมชุดแต่งที่สามารถผ่อนรวมกับตัวรถได้”
“เรายังมีโปรแกรมที่ช่วยให้ออกรถง่ายขึ้น เช่น ดาวน์น้อย ผ่อนต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ และการใช้รถรูปแบบใหม่ KINTO มาเป็นทางเลือก พร้อมข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวให้ท่านเป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุด ด้วยดอกเบี้ย 1.65% หรือผ่อนสบายๆ เพียงห้าพันกว่าบาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 “TOYOTA CARE PHYD”
นอกจากนี้ยังนำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า ด้วยเทคโนโลยี Connected เพื่อความสะดวกสบาย และประหยัดค่าใช้จ่ายตลอดการใช้งาน พบกับ TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ได้ที่ TOYOTA ALIVE บางนา ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พร้อมกิจกรรมเปิดตัว ณ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ในวันที่ 17-19 มีนาคมนี้ และเตรียมพบกับกิจกรรมที่เราจะเดินสายไปแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป” นายณัทธร กล่าวด้วยความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด
โดย Toyota Yaris 2023 มีการเปิดราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทย เริ่มต้นที่ 559,000 บาท