Volvo EX90 รถอเนกประสงค์ไฟฟ้า 100% ระดับเรือธงจากแบรนด์สวีเดน ได้รับการยืนยันแล้วว่ามันใกล้พร้อมแล้วที่จะถูกนำมาเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยของเราช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่งาน Motor Expo 2024
2024 Volvo EX90 มาพร้อมกับงานดีไซน์ที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Volvo ไว้ได้เป็นอย่างดี แม้ในคราวนี้มันจะถูกเพิ่มรายละเอียดเส้นสายแบบของรถยนต์สมัยใหม่เข้าไปมากขึ้น แต่ในภาพรวมมันก็ยังคงมีงานออกแบบที่ดูสะอาดตาตั้งแต่หัวจรดท้าย จนทำให้เราอาจไม่รู้สึกถึงความแปลกหูแปลกตาไปมากเท่าไหร่นัก
และในทางกลับกันมันกลับทำให้เราดูขึ้นเคยกับตัวรถรุ่นนี้ได้ง่ายกว่า โดยที่ไม่ต้องแปลกใจเลยว่านี่คือตัวตายตัวแทนใหม่ของ Volvo XC90 แน่นอน ทั้งในส่วนของมิติตัวรถ และเส้นสายของชิ้นงานโป่งข้างซุ้มล้อ หรือแม้กระทั่งกรอบกระจกหน้าต่างทางด้านข้าง ตั้งแต่บานประตูหน้าจนถึงบานท้ายสุด
ขณะเดียวกันแม้กรอบไฟหน้าจะเปลี่ยนไป แต่เส้นแถบ DRL ตรงกลางดวงยังคงมีหน้าตาที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก เช่นเดียวกับชุดไฟท้าย ที่แม้จะไม่ได้เป็นแบบแถบ LED ลากยาวจากขอบด้านข้างกระจกที่ฝาท้ายลงมาเป็นเส้นเดียว แต่เเมื่อมองในภาพรวม ทั้งงานออกแบบไฟท้ายแบบตัว C และการติดตั้งแถบไฟ LED ขนาบข้างแนวกระจกฝาท้ายก็ยังคงมีกลิ่นอายที่ไม่หนีไปจากรุ่นพี่เช่นกัน
นอกจากนี้ หากคุณลองสังเกตที่หลังคาของตัวรถให้ดี ก็จะพบว่ามันมีส่วนหนึ่งของหลังคาทางด้านหน้าที่นูนขึ้นมาอย่างโดดเด่น ซึ่งแท้จริงแล้ว มันคือที่ตั้งของ LiDar เซนเซอร์ที่ถูกติดตั้งเพิ่มเข้ามา เพื่อเพิ่มความสามารถในการตรวจจับวัตถุต่างๆของระบบความปลอดภัย ซึ่งทาง Volvo ระบุว่ามันจะสามารถตรวจจับวัตถุในรัศมีทางด้านหน้าไกลสุดได้มากถึง 250 เมตร และยังช่วยให้รถสามารถวิ่งด้วยระบบ Autonomous Driving Level 3
ด้านชิ้นส่วนภายในของตัวรถเอง ก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะหากไม่นับงานดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แต่ก็ลงตัวอย่างสวยงามแล้ว ทาง Volvo ยังระบุอีกว่า พวกเขาใช้วัสดุยั่งยืนในการสร้างพวกมันมากถึง 48 กิโลกรัม ซึ่งจะประกอบไปด้วย พลาสติกจากขวดใช้แล้ว, ผ้าจากเส้นไยขนสัตว์, หรือแผ่นไม้
ส่วนงานออกออกแบบคอนโซลเอง ก็เน้นความเรียบง่ายเช่นกัน โดยเราจะเห็นได้ว่ามันแทบไม่มีปุ่มสังการใดๆเลยทั้งสิ้นในจุดนี้ เนื่องจากการสั่งการทำงานระบบต่างๆของตัวรถแทบทั้งหมด ได้ถูกรวมเอาไว้ในหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 14.5 นิ้ว ตรงกลาง ทำงานร่วมกับ ชิปเอนกประสงค์ NVIDIA DRIVE Orin system-on-a-chip (SoC) จาก NVIDIA, พร้อมแพลตฟอร์ม Snapdragon® Cockpit Platform จาก Qualcomm และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยวิศวกรจาก Volvo
และหน้าจอที่ว่านี้ ยังที่รวบรวมฟีเจอร์อาทิ บริการต่าง ๆ จาก Google apps และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย ที่จะพร้อมให้บริการในอนาคต เพื่อรับฟังเพลงผ่านลำโพง และระบบเสียงคุณภาพสูงจากแบรนด์ Bowers & Wilkins และยังมาพร้อมความสามารถในการอัพเดทซอฟต์แวร์รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของตัวรถคล้ายการอัพเดทสมาร์ทโฟนในปัจจุบันผ่านระบบ over-the-air และรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณระดับ 5G
ฝั่งขีดความสามารถในการใช้งานของตัวรถเอง ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ระดับหลักๆด้วยกัน นั่นคือรุ่น ‘Twin Motor’ ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 แล้วให้พละกำลังรวมกันสูงสุด 408 PS กับ แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร
ขณะที่รุ่น ‘Twin Motor Performance’ ซึ่งเป็นตัวแรง ก็จะได้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 เช่นกัน แต่ด้วยการปรับจูนใหม่ จึงทำให้พละกำลังสูงสุดของมันรวมกันเพิ่มขึ้นเป็น 517 PS กับแรงบิดสูงสุด 910 นิวตันเมตร ซึ่งทำให้รถสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.9 วินาทีได้สบายๆ แม้ว่ามันจะมีน้ำหนักตัวที่มากถึง 2,818 กิโลกรัมก็ตาม
ส่วนแบตเตอรี่ที่ให้มา ก็จะมีขนาดอยู่ที่ 111 kWh พร้อมเคลมรองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 745 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณงานออกแบบตัวรถ ที่ทำให้มันมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง (Cd) 0.29 เท่านั้น
ขณะที่ระบบการชาร์จไฟกลับก็สามารถรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ได้แรงสุด 250 kW ซึ่งช่วยให้รถสามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที
โดยตัวรถ Volvo EX90 พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ด้วย 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- Volvo EX90 Plus Twin Motor 7 ที่นั่ง ราคา 4,290,000 บาท
- Volvo EX90 Ultra Twin Motor Performance 6 ที่นั่ง ราคา 4,890,000 บาท
- Volvo EX90 Ultra Twin Motor Performance 7 ที่นั่ง ราคา 4,890,000 บาท