2024 Honda CBR600RR ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยแล้วในตอนนี้ กับการเผยโฉมครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2024 โดยความเปลี่ยนแปลงของตัวรถในครั้งนี้ แม้จะไม่ได้จัดเต็ม หรือเล่นใหญ่มากนักเหมือนพี่ใหญ่ CBR1000RR-R แต่มันก็ยังคงมาพร้อมกับราคาขายเดิม ที่ 549,000 บาท
2024 Honda CBR600RR ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน EICMA Show 2023 ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งการปรับโฉมในครั้งนี้ หากมองเพียงแค่หน้าตาภายนอกอย่างเดียว หลายคนมักเข้าใจว่ามันก็เป็นแค่เพียงตัวรถที่มาพร้อมกับเฉดสีใหม่ ในลักษณะโทนสีและลวดลายเดียวกันกับพี่ใหญ่ CBR1000RR-R เท่านั้น
เพราะในส่วนชุดแฟริ่งรอบคันของมันส่วนใหญ่ยังดูคงเดิม ทั้ง แฟริ่งด้านหน้า พร้อมดวงไฟแบบ Projector LED, ชิ้นแฟริ่งข้าง, รูปทรงถังน้ำมันขนาด 18 ลิตร, ชิ้นแฟริ่งใต้เบาะนั่งผู้ขี่, และชิ้นแฟริ่งใต้เบาะผู้ซ้อน หรือแม้กระทั่งบังโคลนหน้า
แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเราลองสังเกตกันเพิ่มเติมดีๆ เราก็จะพบว่าคราวนี้ทางค่ายได้มีการปรับงานออกแบบชุดแฟริ่งอกล่างใหม่ ให้มันมาพร้อมกับช่องระบายอากาศที่ใหญ่ขึ้น และยังมีการเพิ่มช่องและร่องรีดลมออกบริเวณกรอบเครื่องยนต์ เพื่อการดึงลมวนออกจากบริเวณหน้าเครื่องให้มากที่สุด เพื่อลดแรงต้านอากาศและความร้อนสะสม รวมถึงเพิ่มช่อง NACA Duct มาทางด้านท้ายอีก เพื่อดักลมเข้าไประบายท่อไอเสียช่วงหลังเครื่องยนต์ก่อนไหลขึ้นไปตามแนวชุดเฟรมและออกใต้เบาะผู้ซ้อน
นอกจากนี้ ในส่วนของระบบเสริมสมรรถนะตัวรถ ยังคงมีการปรับเปลี่ยนชุดเซนเซอร์ IMU ใหม่ จากแบบ 5 แกน เหมือนใน CBR1000RR SP ให้กลายเป็นแบบ 6 แกนเหมือนกับพี่ใหญ่ตัวล่าสุด CBR1000RR-R SP ตัวใหม่ล่าสุดด้วย ซึ่งมันจะช่วยในเรื่องของการเก็บข้อมูลองศาการเอียงของตัวรถ และแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นกับรถได้อย่างครอบคลุม รอบทิศทางมากขึ้น
ทำให้ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขี่ต่างๆสามารถทำงานได้ละเอียดและชาญฉลาดมากกว่าเดิม ทั้งระบบป้องกันล้อหลังลื่นไถลอย่าง ระบบ HSTC 9 ระดับ, ระบบป้องกันล้อหน้าลอย และโดยเฉพาะระบบป้องกันล้อหลังลอยตัวขณะเบรกหนักๆที่ถูกเพิ่มเข้ามาเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับระบบ ABS ที่ได้รับการอัพเกรดเป็นระบบ Cornering ABS แล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยทั้งหมดจะแสดงผลบนชุดหน้าตอมาตรวัด TFT
และสิ่งสุดท้ายที่มีการอัพเกรดเพิ่มขึ้นมา ก็คือระบบควิกชิฟท์เตอร์แบบ 2 ทาง ขึ้น/ลง ซึ่งในคราวนี้มีการติดตั้งให้เป็นออพชันติดรถตั้งแต่ออกโรงงานทุกคัน ไม่ได้สงวนไว้ให้เฉพาะลูกค้ากลุ่มแรก หรือต้องหาซื้อแยกเองในภายหลังให้วุ่นวายกันอีกต่อไป
ในด้านรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของตัวรถยังคงเดิม ทั้งการใช้ชุดเฟรมแบบอลูมิเนียมคอมโพสิทหล่อขึ้นรูปทรงทวินสปาร์, ระบบกันสะเทือนโช้กหน้าตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 41 มิลลิเมตร ระยะยุบ 120 มิลลิเมตร จาก Showa พร้อมความสามารถในการปรับเซ็ทได้ทุกค่าด้วยมือ, ระบบกันสะเทือนโช้กหลังต้นเดี่ยวพร้อมกระปุกซับแทงค์แก๊สแยก ช่วงยุบ 128 มิลลิเมตร จาก Showa พร้อมความสามารถในการปรับเซ็ทได้ทุกค่าด้วยมือเช่นกัน ทำงานร่วมระบบกลไกสวิงอาร์มอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปแขนคู่พร้อมกระเดื่องกลไกทดแรง Pro-Link
รวมถึงระบบเบรกหน้าดิสก์คู่ขนาด 310 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มเบรกเรเดียลเมาท์ 4 พอท, ระบบเบรกหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มแอกเซียลเมาท์ 1 พอท, และชุดล้ออัลลอยด์ รัดด้วยยางขนาด 120/70-17 กับ 180/55-17 ตามลำดับหน้า-หลัง
เช่นเดียวกัน ขุมกำลังของมัน ยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ DOHC 16 วาล์ว ขนาดความจุ 599cc พร้อมความสามารถในการทำกำลังสูงสุด 121 แรงม้า PS ที่ 14,250 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 63 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบ/นาที ส่งกำลังไปยังล้อหลังผ่านชุดเกียร์คลัทช์มือ 6 สปีด พร้อมระบบสลิปเปอร์คลัทช์ ทำงานร่วมกับระบบหัวฉีด PGM-Fi และคันเร่งไฟฟ้า Throttle-By-Wire
โดย 2024 Honda CBR600RR ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ในราคา 549,000 บาท จะมีเพียงเฉดสีเดียวเท่านั้นให้เลือกซื้อนั่นคือสีไตรคัลเลอร์ “HRC Grand Prix Red” สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ Honda Big Wing ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป