แม้ในหลายๆประเทศ ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EVs จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2024 (อาจช้าลงบ้าง แต่ก็ยังคงเติบโตอยู่โดยส่วนใหญ่) แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ที่ยอดขายรถยนต์กลุ่มนี้กลับหดลงกว่า 1 ใน 3 จากยอดเดิมในปีก่อนหน้า
จากการรายงานโดยสื่อใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น Nikkei Asia ระบุว่ายอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EVs (BEV/PHEV) ในประเทศญี่ปุ่นช่วงปี 2024 ที่ผ่านมา มีตัวเลขลดลงกว่า 33% และเป็นครั้งแรกที่ยอดขายรถยนต์ในกลุ่มนี้หดตัวลงในรอบ 4 ปี โดยมีตัวเลขยอดขายรวม 59,736 คัน และคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ทุกประเภทเพียง 2% เท่านั้น
โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดมากที่สุด คือทาง Nissan ที่สามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดไปได้กว่า 44% จากตัวเลขยอดขาย 30,749 คัน แต่นั่นก็ยังถือเป็นตัวเลขยอดขายที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา
ส่วนแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของตลาดรวมอย่าง Toyota กลับมียอดขายรถยนต์กลุ่มพลังงานไฟฟ้าที่หดตัวลงกว่า 30% แทน แม้ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของแบรนด์อย่าง bZ4X จะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2023 อยู่ราว 10% ด้วยตัวเลข 1,012 คันก็ตาม และที่น่าตกใจยิ่งกว่า คือยอดขายรถยนต์ในกลุ่มเดียวกันนี้ ของผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นร่วมกันอย่าง Mitsubishi ก็ยิ่งร่วงหนักกว่าปีก่อนถึง 64% ขณะที่ Honda e: เองก็ยอดขายน้อยเช่นกันจนทางค่ายตัดสินใจยุติการทำตลาดไปแล้วแต่เนิ่นๆ
โดยสาเหตุที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ทั้ง BEV และ PHEV ต่ำลงในประเทศญี่ปุ่น กลับไม่เหมือนในทวีปยุโรปที่เกิดจากภาครัฐถอดนโยบายสมทบเงินอุดหนุนราคารถ แต่เป็นเพราะชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ กลับมาเลือกซื้อรถยนต์ไฮบริดแบบ HEV มากขึ้น เนื่องจากมันให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดี อยู่ในเกณฑ์รับได้ และไม่ได้มีราคาแพงเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้า (เพราะรัฐไม่ได้มีนโยบายอุดหนุนตั้งแต่แรก) เมื่อบวกกับระบบสาธารณูปโภค (สถานีชาร์จและอื่นๆ) ที่จำกัด จึงทำให้ชาวญี่ปุ่นส่วนมากไม่ได้มีความสนใจที่จะหันไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนแต่อย่างใด
และเนื่องจากไม่ใช่แค่ภาครัฐเท่านั้น ที่ไม่ได้เน้นผลักดันตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (เพราะพวกเขาเน้นผลักดันรถพลังงานทางเลือกอื่นๆ เช่น พลังงานไฮโดรเจน ควบคู่กันไปด้วย หรือบางครั้งอาจมากกว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเสียด้วยซ้ำ) ทางฝั่งผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นเอง ก็ไม่ได้มีการเน้นทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้านี้มากนัก
จึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าต่างสัญชาติ สามารถทำยอดขายรถยนต์ของตนเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่น BYD ที่มียอดขายเติบโตขึ้น 54% ในปี 2024 ที่ผ่านมา ส่วน Hyundai ก็มียอดขายโตขึ้น 24% เช่นกัน ขณะที่ Tesla ยังไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่ชัด แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่ง ในกลุ่มบริษัทผู้ผลิตต่างชาติของประเทศญี่ปุ่นอยู่ดี
ทั้งนี้ แม้ในปัจจุบัน ทั้งภาครัฐ และผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น อาจดูเหมือนไม่ได้มีความต้องการเน้นผลักดันหรือส่งเสริมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลักเหมือนในหลายๆประเทศ หรือในหมู่ผู้ผลิตสัญชาติอื่น แต่ทางผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน
เพราะในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ที่ผ่านมา เราจะได้เห็นความเคลื่อนไหวว่าผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น จะค่อยๆทุ่มงบในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ BEV มากขึ้นเรื่อยๆ และบางรายก็เตรียมเปิดไลน์ผลิตแบตเตอรี่แบบ Solid State สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของตนเองในอีกไม่กี่เดือนหน้านี้แล้วเช่น Honda เป็นต้น
เมื่อประกอบกับการที่ ไม่ใช่แค่ในตลาดต่างประเทศเท่านั้น ที่ผู้ผลิตต่างสัญชาติ สามารถลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเกือบเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะผู้ผลิตสัญชาติจีน แต่ในประเทศญี่ปุ่นเอง ผู้ผลิตเหล่านี้ก็เริ่มเข้ามาตีตลาดในบ้านตนเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคงไม่ดีเท่าไหร่นัก หากพวกเขาจะแพ้แม้กระทั่งในบ้านเกิดตนเอง ถึงจะไม่ใช่ตลาดที่ตนเองอยากเน้นเป็นหลักมากนักก็ตาม
ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น จะต้องเร่งทำอะไรสักดอย่าง เกี่ยวกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังมากขึ้น เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะเห็นดีเห็นงามกับสถานการณ์ของรถยนต์ไฮบริด ที่ในตอนนี้เริ่มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง และพยายามรักษาตนเองในตลาดนี้ต่อไป โดยทำให้มันมีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆแข่งกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแทน