ทำตลาดมา 8 ปี แต่ยอดขายช่วงหลังๆของ Nissan Titan กระบะยักษ์หรือ Full Size Pickup ไม่เป็นไปตามเป้าขายได้แค่หมื่นต้นๆ
ลดลงจากปีกลายเกือบ 6 % และยิ่งมีข่าวเตรียมที่จะยุติการขายในเจนนี้ไม่มีเจนใหม่มาสานต่อเข้ามาอีกรวมถึงคู่แข่งเตรียมที่จะเปิดตัวรุ่นปรับโฉมนั้น ทำให้ Nissan ฮึดสู้อีกครั้งเปิดตัว Nissan Titan Model Year 2024 ภายนอกภายในไม่ปรับอะไรมากเพียงตัดรุ่นย่อยที่ทำตลาดไม่ได้ออกไปนั่นก็คือรุ่น S แต่เสริมรุ่นใหม่มาแทนนั่นคือรุ่น SV Bronze Editon ด้วยล้ออัลลอยสีบอรนซ์ทองขนาด 20 นิ้ว ชุดแต่งทั้งคันตั้งแต่ กระจังหน้า Interlock รับกับกันชนหน้าสปอร์ตบาร์สีดำติดตราโลโก้ Titan กระจกมองข้างล้วนตกแต่งสีดำทั้งหมด
ภายในเข้มด้วยโทนภายในสีบอรนซ์และพรมปูพื้น ส่วนไฟหน้า LED Dual Eyes พร้อมไฟ DRL แบบ LED รูปตัว C ภายในชุดโคมไฟหน้า เป็นออปชันเสริม
ส่วนรุ่นอื่นๆทั้ง SV, PRO-4X, Platinum Reserve ยังคงเดิมทั้ง ไฟหน้า LED Dual Eyes พร้อมไฟ DRL แบบ LED รูปตัว C ภายในชุดโคมไฟหน้า กระจังหน้า Interlock พร้อมตราโลโก้ Nissan กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมการ์ดเสริมกันชนหน้าทั้งแบบสีดำ สี โครเมียมและสีเดียวกับตัวรถ ไฟตัดหมอก LED ล้อและยางเลือกได้ตั้งแต่ขนาด 17 18 ไปจนถึง 20 นิ้ว 20 นิ้วพร้อมยาง 265/60R20
ภายในมาพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 กับ 9 นิ้วรองรับ Apple Car Play และ Android Auto ทั้งแบบเสียบสายและไร้สายทั้งสองระบบ กับลำโพงติดรถมาตรฐานและจาก Fender แบบพรีเมียม 12 ตัว กำลังขับ 485 วัตต์ ช่องปลั๊กไฟเสริม 12 V & 120 V พร้อม Nissan Connect พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันติดตราโลโก้ Nissan ใหม่ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาด 7 นิ้ว เครื่องปรับอากาศ แยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา
ขุมพลังใหญ่สุดแรงสุดแุดลากดีสุดด้วยเบนซิน 5.6 ลิตร V8 รหัส VK56VD ให้กำลังมากสุด 406 แรงม้า แรงบิด 560 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ของทาง Jatco เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า
Nissan Titan และ Nissan Titan XD 4×4 MY2024 มาพร้อมสองตัวถังทั้งแบบ King Cab และ Double Cab เริ่มต้นที่ $45,770 -$62,750 สำหรับ Titan หรือราว 1,589,000-2,177,000 บาท และ $51,930- $65,840 สำหรับ Titan XD 4WD หรือราว 1,804,000-2,289,000 บาท