การบันทึกเวลาสถิติในสนามแข่งขันที่ได้ชื่อว่าเป็น “The Green Hell” ต่างก็ทำให้ผู้ผลิตหลายคนภาคภูมิใจ แต่ที่น่าภูมิใจยิ่งกว่า ก็คือการได้ทำลายสถิติของรถของคู่แข่งโดยตรงอย่างราบคาบ เหมือนอย่างที่ Porche Taycan พึ่งทำไปหมาดๆไม่นานนี้
ย้อนไปเมื่อกลางปี 2023 ระหว่างเดือนมิถุนายน Tesla ได้ทำการส่งรถซีดานเรือธงของแบรนด์อย่าง Model S รุ่น Plaid ตัว 3 มอเตอร์ ซึ่งเดิมทีก็เป็นรถซีดานไฟฟ้าที่มีแรงม้าติดตัวมากว่า 1,020 ตัว และพร้อมทำอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 1.99 วินาที เท่านั้น อยู่แล้ว
แต่ทางค่ายยังได้ทำการเสริมอาวุธด้วยการติดตั้งออพชัน “Track Package” ซึ่งจะมีการเพิ่มลูกเล่นในส่วนของ จานเบรกคาร์บอนหน้า-หลัง, คาลิปเปอร์เบรกโมโนบล็อค 6 พอท และ 4 พอท ตามลำดับหน้า-หลัง พร้อมผ้าเบรกประสิทธิภาพสูง, เปลี่ยนไปใช้น้ำมันเบรกเกรดสนามแข่ง, ปรับจูนการทำงานของมอเตอร์และช่วงล่างเพิ่มเติม, และยังเปลี่ยนไปใช้ช้อล้ออัลลอยน์น้ำหนักเบา พร้อมรัดด้วยยางที่ทั้งหนึบ และกว้างกว่าเดิมอีก
นั่นจึงส่งผลให้มันสามารถทำลายสถิติเวลารถยนต์ซีดานไฟฟ้าที่เร็วที่สุดใน Nurburgring ดั้งเดิมของ Porsche Taycan Turbo S ที่เคยบันทึกไว้ช่วงกลางปี 2022 ด้วยตัวเลขราวๆ 7.33 นาที ลงไปอีกราวๆ 9 วินาทีด้วยกัน เหลือเพียง 7 นาที กับอีก 25.231 วินาที เท่านั้น
แน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ย่อมไม่แปลกใจที่ทาง Porsche จะต้องรีบทวงตำแหน่งบัลลังก์ในสนามบ้านเกิดขึ้นตนเองคืน เมื่อประกอบกับการที่ในเร็วๆนี้ พวกเขาจะทำการปรับโฉม Taycan ใหม่ ในระดับ Facelift หรือ Minorchange อยู่แล้ว จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจนำตัวรถทดสอบร่างใกล้เคียงกับตัวที่จะขายจริงในเร็วๆนี้มาวิ่งทดสอบเพื่อกดสถิติเวลาใหม่เสียเลย
และสำหรับผลลัพท์ที่ได้ ก็ถือว่าเกินคำว่าน่าประทับใจไปมาก เพราะรถทดสอบที่พวกเขาส่งลงไปโดยมี Lars Kern นักขับประจำทีมทดสอบและพัฒนาตัวรถของ Porsche เป็นผู้คุมบังเหียน กลับสามารถกดเวลาไปได้ด้วยตัวเลข 7’07.550 นาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติเวลาของรถสปอร์ตในตระกูล 911 ของตนเอง แทบทุกคัน และแน่นอนว่ามันทุบสถิติเวลาเดิมของ Tesla Model S Plaid + Track Package ไปถึงเกือบ 18 วินาที ด้วยกัน เรียกได้ว่าขาดลอยกันแบบสุดๆ
นอกจากนี้ หากมองจากตัวเลขให้ดี ก็จะพบว่ามันเป็นตัวเลขที่เกือบจะใกล้เคียงกับสถิติเวลาของซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้า Rimac Nevera อีกด้วย โดยฝั่ง Taycan ตัวใหม่ช้ากว่าแค่เพียงราวๆ 2 วินาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่มันจะกลายเป็นรถยนต์ซีดานไฟฟ้าที่เร็วที่สุดใน Nurburgring เท่านั้น แต่มันยังเกือบจะเป็นรถยนต์โปรดักชันคาร์ขุมกำลังไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในสนามแห่งนี้อีกต่างหาก
ส่วนรายละเอียดของตัวรถที่ใช้ในการกดเวลา ทางค่ายยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆออกมา นอกจากการเปิดเผยว่าตัวรถที่ใช้ทำสถิติเวลานั้น มาพร้อมกับการติดตั้งโรลบาร์ และเบาะบัคเก็ทซีท เพิ่มเติมจากออพชันที่เตรียมจะขายจริง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับเท่านั้น
แต่จากการวิเคราะห์โดยช่างภาพ และใครหลายๆคนที่มีโอกาสพบเห็นรถคันนี้กำลังถูกวิ่งทดสอบ และเก็บค่าต่างๆในสนามช่วงหลายๆเดือนที่ผ่านมา ทุกคนต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า มันจะต้องเป็นตัวรถที่มีแรงม้าไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัวแน่นอน
ส่วนคลิปการทดสอบจับเวลา ทาง Porsche ระบุว่าจะมีการอัพโหลดบนโลกโซเชียลให้ชาวโลกได้รับชมกันอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งในจังหวะนั้น พวกเขาจะมีการเปิดเผยถึงรายละเอียดตัวรถพร้อมกันไปเลยในคราวเดียวหรือไม่ ? ก็ยังต้องรอติดตามดูกันต่อไปครับ