เข้าสู่ปีใหม่ พ.ศ. 2567 อย่างเป็นทางการกันแล้ว เริ่มปีนี้ ก็เฉกเช่น ที่เราจะทำกันทุกปี ในการสำรวจ รถใหม่ ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย กันบ้าง ว่าปีนี้ จะมีรถรุ่นไหน มาตอบตลาดคนไทย ได้เตรียม จับจองกันบ้าง
Honda
ปีนี้อาจเป็นปีแรกที่ ฮอนด้า จะไม่มีรถใหม่ มาเปิดตัวมากเท่าปีที่แล้ว แต่ก็จะมีหมัดเด็ด ที่เตรียมออกมา ทำตลาดบ้าง ดังนี้
Honda e:NY
ยืนยันว่าเปิดตัวปีนี้แน่นอน แต่ช่วงเวลาที่แน่นอนยังไม่มีการยืนยันว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไร โดยความเป็นไปได้มากสุด คาดว่าจะเป็นช่วงงาน Motor Show 2024 นี้ เราจึงจะได้พบกับ รถยนต์ไฟฟ้า รุ่นแรกของฮอนด้า ที่สำคัญมันประกอบจากโรงงานในประเทศไทยด้วย
ตัวรถ Honda e:NY ให้พูด มันก็คือ Honda HR-V ในรูปแบบ รถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง โดยขนาดตัวมันเทียบเท่า กับพี่ชายของมัน หน้าตามีการปรับปรุง ให้น่าสนใจ ด้วยงานออกแบบ ที่มีความแตกต่าง ในแบบสปอร์ตทันสมัย
รายละเอียดจาก ต่างประเทศ ชี้ว่า Honda e:NY จะวางจำหน่าย ด้วยมอเตอร์ ที่ให้กำลังขับ ถึง 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร สามารถเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม.ได้ ในเวลา 7.6 วินาที และรองรับ การชาร์จเร็วสูงสุด 100 kW ใช้เวลาเติม 10-80% ในเวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น
เจ้านี่ ถือว่า เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่ค่อนข้างน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 จากประเทศ ญี่ปุ่น และ เป็นความหวังหมู่บ้านด้วย
Honda City Hatchback Facelift
ทางด้าน รุ่นปรับโฉม ปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นคิว ของ Honda City ร่าง 5 ประตู ที่ทำตลาดมาระยะใหญ่ โดยก่อนหน้านี้ มีภาพ หลุดของตัวรถ ออกมาวิ่งทดสอบ ตั้งแต่ราวๆ ช่วงไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมาก่อนงานเปิดตัวร่างซีดาน 4 ประตู ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์เพียงไม่กี่วันเท่านั้น
ในเบื้องต้น ต้องยอมรับว่า อาจจะมีแนวทางเดียวกับ รุ่นซีดาน คือ แต่งหน้า ทาปากใหม่หมดตามสไตล์ รถปรับโฉมเล็ก และอาจจะมีฟังชั่น Honda Sensing ให้มาทุกรุ่นย่อย ตอบลูกค้าและ อาจจะเป็นไปได้ สำหรับ รุ่นไฮบริด ในราคาที่เป็นมิตรขึ้น ทั้งนี้ก็ต้อง รอดูกันต่อไป
Toyota
Toyota Prius
ทางด้าน โตโยต้า ในปีนี้ ลือกันมานานว่าจะเปิด ตัวรถรถไฮบริด กลับมาขายอีกครั้งในนาม Toyota Prius ที่เพิ่งจะเปิดตัวขายในต่างประเทศไปหมาดๆ โดยรถ Prius รุ่นที่ 5 ถูกออกแบบ ให้แปลกแตกต่าง และมีความทันสมัย น่าใช้งาน ตอบลูกค้าที่มองหา สมรรถนะความประหยัดสูงสุด
ที่น่าสนใจ คือ ในรุ่นใหม่ นี้มีเวอร์ชั่นไฮบริดเสียบปลั้ก ทำตลาดด้วย และมีแนวโน้มสูง ที่จะแนะนำในฐานะ เทคโนโลยีใหม่ของ Toyota ที่มีการขายในประเทศไทย
Toyota Camry
คันนี้ต้องบอกก่อนว่า 50/50 แต่มีแนวโน้มสูง ที่จะเร่งเข้ามาทำตลาดในไทย แต่อาจจะเป็นราวๆปลายปี ไตรมาส 3-4 ถ้ามาทันในปีนี้
Toyota Camry ใหม่ จะเป็นเรือธง ที่สำคัญของ Toyota ในปีนี้ เนื่องจากรถรุ่นปัจุจบัน ทำตลาด มาตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งก็เรียกว่าได้อายุตลาด ตามสมควรแล้ว
ตัวรถรุ่นใหม่ที่เปิดออกมาได้หน้าตา ใหม่ ในทรง Hammer Head ที่มีความสปอร์ตปราดเปรียว โดยรุ่นนี้มีการปรับปรุง ในส่วนเครื่องยนต์ มาเป็นไฮบริดทั้งหมด ใช้ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังขับ 225 แรงม้า ส่วนรุ่น PHEV อาจแรงถึง 232 แรงม้า
Toyota Hilux GR Sport
ในปีนี้ ทางโตโยต้าจะเปิดตัว เจ้ากระบะพร้อมลุย หรือจะพูดว่า มันคือ “แรพเตอร์” ในแบบ Toyota ก็ไม่ผิดนัก กับ เจ้า Toyota Hilux GR Sport และปีนี้ จะกลับมาพร้อมกับในรูปแบบ รถพร้อมลุย ประดุจ ทำตัวแรลลี่ ออกมาวางจำหน่าย ให้ลูกค้าที่สนใจได้จับจองกัน
โตโยต้า ได้อาศัยงานที่สนามช้าง เผยโฉม รถรุ่นนี้กันไปหมาดๆ อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ หลายคนก็ให้ความสนใจมันไม่น้อย ที่จะมาขายไทย
ในส่วนเครื่องยนต์จะเป็นขุมพลัง 2.8 ลิตร ให้กำลัง 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ทำให้ มันจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลในรถกระบะ ที่แรงที่สุดในตลาดบ้านเรา
ครั้งนี้ น่าจะเรียกว่า แรพเตอร์ ก็มีคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อจริงๆ เสียที
Toyota Corolla Cross Facelift
ทางด้านปรับโฉม ปีนี้ คาดว่าจะเป็น Toyota Corolla Cross โดยตัวรถ น่าจะปรับงานออกแบบ ให้ตรงใจมากขึ้น เครื่องยนต์ น่าจะเหมือนเดิม 1.8 ลิตร ไฮบริด เนื่องจาก มีการปรับในญี่ปุ่น ให้เป็นเครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน ไว้แล้ว
หลักๆที่จะเพิ่มมา คือ หน้าตาใหม่ , ภายใน ปรับให้ทันสมัย น่าจะมีการปรับ เพิ่มระบบเบรกมือไฟฟ้ามาแล้ว
และ ท้ายที่สุด อาจจะมีการยุติ การวางจำหน่าย รุ่นเครื่องยนต์สันดาป 1.8 ลิตร เพื่อให้สอดรับกับเทรค และ การเป็น พี่ใหญ่ของ Toyota Yaris Cross ด้วย
Mitsubishi
Mitsubishi Triton Athlete
ทางด้าน มิตซูบิชิ ในปีนี้ น่าจะเป็นการวางหมากเดิมพัน เฟส 3 ของ Mitsubishi Triton ซึ่ง น่าจะออกมาในช่วงกลางปี โดยจะวางจำหน่าย รุ่นหลัก Mitsubishi Triton Athlete เจ้าตัวท๊อป ตัวจริง แต่งเต็ม ที่จะออกมาแน่ในปีนี้
จุดขายหลัก คือ มันจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4N16 ขนาด 2.4 ลิตร บล็อคใหม่ ที่มีกำลังขับสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร จากการทำงานด้วยระบบ Sequential Turbo ช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่ตอบโจทย์ยิ่งขึ้น
รุ่นขายไทย จะมาพร้อมภายในสีดำล้วน เป็นรุ่นเดียวในตลาด และ นอกจากรุ่นนี้ ยังจะเปิดรุ่นอื่นๆ ตามออกมาด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นแนวทางหลัก ของมิตซูบิชิ ในปีนี้
Mitsubishi X Force
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เชื่อว่าจะเข้ามาทำตลาดในปีนี้ อย่างแน่นอน สำหรับ Mitsubishi X Force ใหม่ นี่คือ ว่าที่รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก อีกรุ่นที่พร้อมเข้ามาตอบตลาดชาวไทย เอาใจสาวก
โดยรถรุ่นนี้ เริ่มขายไปแล้วในบางประเทศทางเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ โดยมันจะมาพร้อมเครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังขับ 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร และ ระบบเกียร์ CVT ซึ่งคาดว่าอาจจะเปิดตัวช่วงปลายปี เพื่อ สร้างแรงกระเพื่อมให้แบรนด์ น่าสนใจมากขึ้น
Ford
Ford Ranger / Everest วางขุมกำลัง Diesel V6
ทางด้าน Ford ในปีนี้ ในกลุ่มกระบะ และ อเนกประสงค์ เชื่อว่า เราน่าจะมีโอกาสต้อนรับ Ford Everest / Ford Ranger V6 ซึ่งมีขายในออสเตรเลีย
ก่อนหน้านี้ ทางฟอร์ดระบุว่า ที่เครื่องยนต์ V6 ยังไม่ขายไทย เนื่องจาก เครื่องยนต์ดีเซล V6 ต้องการน้ำมันยูโร 5 ซึ่งล่าสุดตอนนี้ในไทย เพิ่งบังคับใช้ น้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5 อย่างเป็นทางการ
ทำให้แนวโน้มที่จะวางขายเครื่องยนต์ดีเซล V6 เริ่มชัดเจนขึ้น โดยตามสเป็ค เครื่องยนต์ลูกนี้ จะมาพร้อมระบบเทอร์โบเดี่ยว ให้กำลังขับ สูงสุด 250 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ซึ่งมากที่สุดในตลาดวันนี้ โดยมันยังมาพร้อมระบบเกียร์ ออโต้ 10 สปีด เหมือนเดิม
Ford Mustang 2024
ทางด้านรถนำเข้า ในปีนี้ เชื่อว่า Ford จะส่งท้ายปี กับ Ford Mustang 2024 (S650) ที่มีการปรับปรุงไปหมาดๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา
การปรับปรุงม้าป่าใหม่ ที่มีความดิบดุเหมือนเคย ในส่วนของเครื่องยนต์ไม่ได้ปรับปรุงไปมาก แต่หัวใจหลักอยู่ที่ ปรับตัวรถให้เข้ากับยุคสมัย ภายนอกที่มีความเฉียบคม มากกว่ารุ่นเดิม
มาตรวัดภายในที่ออกแบบเป็นจอทั้งหมดตามยุค ให้จอขนาด 12.4 และ 12.3 นิ้ว และมีลูกเล่นต่างๆ มากขึ้น งานออกแบบ ที่ล้ำขึ้นไปอีกขั้นจากรุ่นเดิม ทั้งหมด อยู่ในรถคันนี้
มันยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 Ecoboost และ V8 5.0 ลิตรเหมือนเดิม และบ้านเรา ยังคงเป็นรถที่ส่งตรงจากอเมริกา
Hyundai
Hyundai ioniq N
ทางด้าน “ฮันเด” ในปีนี้ จะมีรถใหม่เข้ามาแน่นอน หลังบริษัทแม่มาลุยตลาดเอง โดยรถที่ยืนยันว่า จะมาแน่ นั่นคือ Hyundai ioniq N รถยนต์ไฟฟ้าสายแรงจากทาง ซับแบรนด์ “N”, แบรนด์รองที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่ของทางค่ายนี้ ที่จะออกมาเอาใจสาวกชาวไทย
เจ้ารถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ออกมาเน้นความแรงเป็นหลัก ให้พลังขับสูงถึง 650 แรงม้า สามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 260 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอร์รี่ขนาด 84 KW รองรับการชาร์จเร็วสุด 350 kW ทำให้สามารถเติมไฟ 10-80% ได้ในเวลา 18 นาที ตลอดจนช่วงล่างที่มีการปรับมาพิเศษ และ ยังเติมเบรกหน้า 4 พอท พร้อมจานแบรกขนาดใหญ่ 400 มม. มาให้ด้วย
ราคาขายไทย คาดว่า จะอยู่ที่ 3 ล้านบาทกลางๆ ซึ่งไม่ใช่ราคาที่แรงมาก เมื่อเทียบกับสมรรถนะการขับขี่ที่ได้มา
Isuzu
Isuzu MU-X MC
ทางด้านค่าย Isuzu ในปีนี้ คาดว่าจะเป็นการปรับโฉมของ Isuzu MU-X ซึ่งก็เป็นไปตามกรอบเวลาสมควร โดย Isuzu Mu-X ใหม่ น่าจะมาในแนวการปรับหน้าค่าตาให้น่าสนใจ ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นตามยุคสมัย
ส่วนออพชั่นก็เติมขึ้นมา โดยเราอยากจะอ้างอิงว่า มันน่าจะมาในแนวทางของ Isuzu D-MAX ที่เปิดตัวตอบตลาดมาในปี 2023 ที่ผ่านมา
จุดหลัก คือหน้าตาภายนอก และภายใน ที่มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ด้วยความเป็นรถนั่ง เราอาจจะได้เห็นอะไรที่แตกต่างกัน อย่างแน่นอน จาก Isuzu MU-X ใหม่นี้
Mazda
Mazda BT-50 MC
ที่น่าจับตาในสายกระบะปีนี้เรายกให้ มาสด้า ซึ่ง มีความเป็นไปได้สูง ที่เราจะเห็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ หรือ Big Minorchange ของทางมาสด้า ในรถรุ่นใหม่ และอันที่จริง มีกระแส ออกมาจาก ทางต่างประเทศ ว่าทางมาสด้า มีแผนจะปรับโฉมตัวรถรุ่นนี้อยู่แล้ว เพื่อกระตุ้นยอดขาย ติดก็แค่เพียง ยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่า มันจะถูกปรับเปลี่ยนไปในทิศทางใดกันแน่
GWM
ORA Good Cat ประกอบไทย
ทางด้าน ค่ายจีน ในปีนี้ Great Wall จะเริ่มต้นด้วยการจำหน่าย ORA Good CAT เวอร์ชั่น ประกอบไทย โดยมีรายงานว่าจะเริ่มขายในช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ นี้เป็นต้นไป ในส่วนของรายละเอียด และรุ่นย่อย น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง จากเดิมมากนัก โดยจะมีครบ ทั้ง รุ่นปกติ และ ORA Good CAT GT
GWM Poer
คันนี้ยังไม่กล้าคอนเฟิร์ม 100% แต่มีคนพบเห็นแล้วว่า มันเข้ามาวิ่งทดสอบในไทย ซึ่งก็อาจจะเป็นไพ่สำคัญของ Great Wall ในปีนี้กับ GWM Poer ที่น่าจะเข้ามาทำตลาดในไทย
โดยในส่วนของระบบขับเคลื่อน เชื่อว่ามันจะออกมาตอบโจทย์ด้วย ในแบบเดียวกับ Tank ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรไฮบริด ที่มีการตอบตลาด เน้นความพร้อมสรรพในเรื่องลุย
เบื้องต้นเท่าที่ภาพออกมา จะเน้นที่ตลาด Life Style เป็นหลักก่อน น่าจะยึดฐานเดียวกับ Ford ที่ทำออกมาตอบโจทย์ เน้นกลุ่มคนใช้งานในประจำวัน ไม่ใช่ สายพาณิชย์
MG
MG 4 ประกอบไทย
ทางด้าน เอ็มจี ปีนี้ ที่ออกมาขายชัวร์ๆ คือ MG 4 ประกอบไทย
รายละเอียด สเป็คทางเทคนิคต่างๆ ยังไม่ชัดเจน แจ่มแจ้งนัก แต่มีความเป็นไปได้สูงที่เวอร์ชั่นไทย จะปรับขนาดแบตเตอร์รี่เป็น 64 kWh จากปัจจุบัน และ ตัวเลขแรงม้าเพิ่มขึ้น เป็น 200 แรงม้า ตามสเป็คจีน แต่จะยังคงขับเคลื่อนด้วยชุดล้อคู่หลังเท่านั้นเหมือนเดิม
ซึ่งแน่นอนว่า ราคาของมันจะต้องเพิ่มขึ้นไปบ้าง เป็นเงาตามตัว แต่ในภาพรวมยังเหมือนเดิม รวมถึง อาจมีการปรับปรุง Software ให้จำค่าหลังการปรับตั้ง ตามแบบคนไทยอยากได้ ที่มีการพูดถึงมากจากกลุ่มผู้ใช้งาน
MG Cyberster
ทางด้านรถยนต์ไฟฟ้าจากเอ็มจี ยังไม่หมดเท่านี้ ปีนี้ เราจะได้ให้การต้อนรับ MG Cyberster ในวาระ 100 ปี MG โลก เบื้องต้น เราพอทราบมาว่า เวอร์ชั่นขายไทย จะมีทั้งตัวท๊อป แบบที่โชว์ไปแล้วในงาน Motor Expo 2023 ที่ให้กำลังขับ 544 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ และ อาจจะมีเวอร์ชั่นขับหลังเข้ามาด้วย
การวางจำหน่ายจริงรถรุ่นนี้ คาดว่าจะเกิดขึ้นในงาน มอเตอร์โชว์ปีนี้ และ จะขายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นปี สายรถยนต์ไฟฟ้า ชอบความแรง ต้องไม่พลาดกัน
Neta
Neta V 2
ทางด้าน แบรนด์ Neta ปีนี้ จะเปิดเริ่มต้นปี ด้วยรถยนต์ Neta V 2 ก่อน โดยจุดหลัก อยู่ที่การปรับเปลี่ยน ตัวรถให้พร้อมใช้งานมากขึ้น โดยรถรุ่นนี้ประกอบ จากโรงงานในประเทศไทย โดย บางชัน เจนเนอร์รัล แอสเซมบลี
รายละเอียดตัวรถ เหมือนเดิม โดยหลักๆ ปรับเปลี่ยน กันชนหน้า ไฟท้าย และ กันชนท้าย รวมถึง มีการปรับ ตัดสีเป็นทูโทน ส่วนในห้องโดยสาร ปรับงานออกแบบเป็นทูโทน ให้ความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าจะเปิดตัวเร็วในเดือน กุมภาพันธ์- มีนาคม 2567
Neta X
ทางด้านรถยนต์จาก เนต้า ปีนี้จะมีอีกรุ่น นั่นคือ Neta X ซึ่ง มันคือการเติบโตขึ้น ของ Neta U Pro โดยทางเนต้า มีแผนเอารถรุ่นนี้เข้ามาขายในประเทศไทย
โดยขนาดตัวรถ มีขนาดตัวใหญ่พอๆ BYD Atto 3 แต่มีกำลังขับสูงสุด น้อยกว่า เพียง 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 201 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้ความเร็วสูงสุด 150 ก.ม./ช.ม.
เรื่องการออกแบบ มีความผสมผสาน เส้นสายของ Neta S เข้ามา ตอบสนองการขับขี่ทางลุย ซึ่งในภาพรวมของมันจึงค่อนข้างตอบโจทย์ ในการเป็นรถใช้งาน All Around ดีขึ้น
ในปีนี้ ก็เรียกว่า ประเทศไทย จะมีรถยนต์ใหม่ มาขายหลายรุ่นตอบโจทย์ชาวไทย มากมาย นับว่าเป็นอีกปีที่เรา Ridebuster ได้วิ่งกันขาขวิด แน่นอนครับ