แม้ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะถึงกำหนดการเปิดตัวจริง แต่ล่าสุด 2025 Honda HR-V e:HEV ก็ได้ถูกปล่อยข้อมูลออพชันต่างๆของมันออกมาแล้ว เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจ ได้พิจารณารายละเอียดตัวรถเบื้องต้นก่อน

Honda HR-V e:HEV รุ่นปี 2025 มาพร้อมกับการปรับโฉมครั้งใหม่โดยคราวนี้มาพร้อมกับภาพลักษณ์ใหม่ที่ถูกทำให้ดูแข็งแกร่งบึกบึนยิ่งขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นงานออกแบบเดียวกับเวอร์ชันที่ขายในประเทศญี่ปุ่น โดยหากแบ่งตามรุ่นย่อย ก็จะมีรายละเอียดดังนี้

รุ่น e:HEV RS

• ออกแบบด้านหน้าตัวรถด้วยดีไซน์ใหม่ ยกระดับความสปอร์ตแกร่งยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตในดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS
• ไฟท้ายแบบ LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke เสริมความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น
• ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กับสีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond Cut

รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E

• การออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ยกระดับความสปอร์ตแกร่งยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับ
  กระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ

โดยตัวรถ HR-V ปีล่าสุด จะมาพร้อมสีภายนอกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่! สีกากีแซนด์ (มุก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วยสีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) และ
สีดำคริสตัล (มุก)

นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังมีการปรับงานออกแบบใหม่ พร้อมเพิ่มแผ่นซับเสียงบริเวณครึ่งหน้าของห้องโดยสารเพื่อลดเสียงรบกวนจากผิวถนนและห้องเครื่อง และเติมฟังก์ชันการใช้งานใหม่ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่

• ออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดย
  มาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์แยกส่วนตรงกลาง มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ IPS ให้มุมมองกว้างกว่าเดิม มองเห็นได้ง่ายทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร พร้อมระบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมจอแสดงสถานะไฟเบรก
• อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง

และเพื่อความคุ้มค่าที่มากขึ้น สำหรับตัวรถรุ่น EL และ E ยังได้ออพชันเพิ่มเติมอีกหลายรายการ ทั้ง

• เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เฉพาะ EL)
• เพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (เฉพาะ EL)
• อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
• แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง
• เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลัง (พึ่งถูกใส่เข้ามาในรุ่น E)
• เพิ่มจำนวนลำโพงเป็น 6 ตำแหน่ง (พึ่งถูกใส่เข้ามาในรุ่น E)

ในส่วนระบบความปลอดภัยเอง ก็มีการอัพเกรดฟีเจอร์เสริมบางส่วนเข้ามา โดยเฉพาะในรุ่น RS ทั้ง

• ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB)(รุ่น e:HEV RS)
• ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (รุ่น e:HEV RS)
• เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV RS)

ด้านขุมกำลังตัวรถ ยังคงใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 106 แรงม้า PS ที่ 6,000 – 6,400 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า แรงม้าสูงสุด 131 PS ที่ 4,000 – 8,000 รอบ/วินาที และมีแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ E-CVT ไปยังชุดล้อคู่หน้า พร้อมเคลมอัตราการสิ้นเปลืองชื้อเพลงสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร

นอกนั้นในส่วนของระบบกันสะเทือนยังคงเป็นแบบหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง – หลังทอร์ชันบีม และทำงานร่วมกับระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS กับระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ และชุดล้ออัลลอยด์ขนาด 17-18 นิ้ว รัดด้วยยางชนาด 215/60-17 หรือ 225/50-18 แล้วแต่รุ่นย่อย

โดยกำหนดการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Honda HR-V e:HEV จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12:45 น. เป็นต้นไป และจะพร้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสทั้งที่บูทฮอนด้า ในงาน Motor Expo 2024 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศได้นับตั้งแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป