แม้จะทำให้เหล่าสาวกต้องแอบขัดใจนิดหน่อยกับการเพิ่มระบบไฮบริดเข้ามาใน Porsche 911 ตัวถัง 992 รุ่นไมเนอร์ (992.2) แต่สำหรับรุ่นตัวแรง 911 GT3 รุ่นล่าสุดโมเดลปี 2025 กลับไม่เป็นเช่นนั้น
2025 Porsche 911 GT3 รหัสตัวถัง 992.2 ยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาด 4.0 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ และมีความสามารถในใการลากรอบสูงสุดได้กว่า 9,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร กับแรงม้าสูงสุด 510 PS ดังเดิม
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไส้ในและส่วนควบของเครื่องยนต์ที่อยู่ใน 911 GT3 รุ่นใหม่นี้ กลับได้รับการปรับปรุงใหม่หลายจุด เพื่อให้มันยังคงสามารถทำกำลังสูงสุดได้ดังเดิม และมีอัตราการตอบสนองที่ดีกว่าเดิม ท่ามกลางยุคที่ภาครัฐทั่วโลกเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยมลพิษ
เริ่มจากการเพิ่มชุดกรองดักไอน้ำมันเข้าไปอีก 2 ชุด และมีการใส่ตัวแคทตาไลติกดักไอเสียเข้าไปอีก 4 ลูก เพื่อลดการปล่อยมลพิษ และในขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มอรรถรสในการใช้งาน ทาง Porsche ยังนำเอาแคมชาฟท์ หรือเพลาลูกเบี้ยวของ 911 GT3 RS (992.1) มาใส่, ปรับปรุงฝาสูบใหม่ เปลี่ยนเลือนริ้นเร่งใหม่ รองรับอัตราการไหลของอากาศที่ดีขึ้น, เปลี่ยนแผงออยคูลเลอร์ใหม่ เพื่อการระบายความร้อนน้ำมันเครื่องฯที่ดีขึ้น
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือมันยังคงมาพร้อมกับทางเลือกระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ (PDK) 7 สปีด และ ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดดังเดิม โดยที่ฝั่งรถที่ติดตั้งระบบเกียร์ธรรมดามา จะได้รับการปรับเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ ให้จัดจ้านยิ่งขึ้นด้วย หลังจากที่ลูกค้าหลายคนในตัวรถโฉมก่อนบ่นว่าอัตราทดเกียร์นั้นหนักและยาวเกินไป
ด้านระบบกันสะเทือน ก็มีการปรับปรุงใหม่โดยใช้เทคโนโลยีและความรู้จากการทำ GT3 RS โฉมก่อนหน้ามาต่อยอดลงไป เช่นชุดปีกนกที่มาพร้อมกับขาทรงหยดน้ำเพื่อการรีดอากาศและสร้างแรงกดอากาศในซุ้มล้อ แถมยังช่วยจัดการอากาศไปช่วยระบายความร้อนระบบเบรกได้ดียิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้ยังมีการปรับตำแหน่งจุดยึดปีกนกล่าง ของชุดระบบกันสะเทือนหน้าใหม่ ให้ต่ำลง เพื่อลดการโคลงตัวขณะเข้าโค้ง และลดอาการหน้าทิ่มขณะเบรกหนักๆ รวมถึงช่วยให้รถมีความมั่นคงกว่าเดิม รับกับชิ้นส่วนตัวถังภายนอกรอบคันใหม่ ที่สามารถสร้างแรงกดอากาศขณะวิ่งด้วยความเร็วสูงได้มากขึ้น
แม้กระทั่งตัวไฟหน้าแบบใหม่เอง ก็ยังถูกออกแบบให้ใส่ใจในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ รับกับชุดกันชนหน้าใหม่ที่มีช่องดักลมใหญ่ขึ้น เช่นเดียวกับดิฟฟิวเซอร์หลัง และแผ่นรีดอากาศใต้ท้องรถ
นอกจากนี้ ชุดล้อติดรถมา ยังมีน้ำหนักเบาลงอีกราวๆ 1.5 กิโลกรัม ส่วนยางติดรถ ขนาด 255/35 ZR20 และ 315/30 ZR21 ตามลำดับหน้า-หลัง ยังมาพร้อมกับเนื้อยางสูตรใหม่ ซึ่งทำให้มันสามารถสร้างแรงยึดเกาะบนทางเปียกได้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่าเดิม โดยที่ทางเลือกยางกึ่งสลิกสำหรับวิ่งในสนามเป็นหลักก็ยังคงมีมาให้
ภายในห้องโดยสาร ถูกตกแต่งด้วยงานออกแบบใหม่ คล้าย 911 Carrera ทว่าเพื่อความดิบดุดัน ตัวรถ GT3 จึงยังคงมาสวิทช์สตาร์ทรถแบบแป้นบิดดังเดิม ไม่ได้เป็นแบบปุ่มกดใดๆ นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนรูปทรงเบาะนั่งหลังคาร์บอนใหม่
โดยที่หากลูกค้าต้องการใช้งานรถคันนี้ไปปาร์ตี้กับเพื่อนแล้วกะพกสาวๆกลับบ้านด้วยสักคนสองคน ก็สามารถซื้อแพ็คเกจ GT3 Touring แล้วติดตั้งเบาะคู่หลังเพิ่มได้ด้วย เป็นครั้งแรกของตัวรถรหัส GT3 ที่มีออพชันนี้เข้ามา ทว่ามันก็แลกกับการที่ลูกค้าจะต้องถอดชิ้นสปอยเลอร์หลังออกไป เพื่อทำให้รถดูสุภาพขึ้นเล็กน้อย
นอกจากนี้ ในส่วนของออพชันไล่เบา Weissach Package ซึ่งเดิมมีไว้ให้เฉพาะลูกค้าที่ซื้อรุ่น RS เท่านั้น ตอนนี้ลูกค้าก็สามารถเลือกซื้อได้เช่นกันสำหรับรุ่น GT3 โดยมันก็จะประกอบไปด้วย หลังคาคาร์บอน, แท่งกันโคลงงานคาร์บอน, ลูกหมากกันโคลงคาร์บอน, แผงประตูคาร์บอน, แผ่นปิดสปอยเลอร์หลังด้านซ้าย-ขวา งานคาร์บอน, ครอบกระจกมองข้าง, และยังสามารถซื้อล้อแม็กนีเซียมเพิ่มได้อีกด้วย (ถ้าไม่ซื้อ Weissach Package ก่อน จะซื้อล้อแม็กนีเซียมไม่ได้)
ทั้งนี้ แม้จะดูเหมือนว่าตัวรถไม่ได้ถูกปรับปรุงจากเดิมเท่าไหร่นัก แต่ราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในต่างประเทศของมัน กลับมีการขยับขึ้นจากตัวรถโฉมก่อนพอสมควร
โดยหากเป็นการวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา 2025 Porsche 911 GT3 จะสนนราคาที่ 224,495 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 7.5 ล้านบาท ขณะที่ตัวรถโฉมก่อนหน้ามีการเปิดราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศเดียวกันเมื่อปี 2023 เริ่มต้นเพียง 171,500 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 5.7 ล้านบาท