พัฒนาการของรถยนต์ยุคต่อไป ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุครถยนต์พลังงานไฮบริด หลายคนต่างไม่ค่อยเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริงสักเท่าไรนัก แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะแลดูห่างไกลคนไทยอย่างมาก แต่นี่ความจริงที่จะเกิดขึ้นในโลกอนาคต และมีเหตุผลต่าง ๆ มากมาย สนับสนุนความเป็นไปได้ในเรื่องนี้

1.ประหยัดได้จริง ที่ผ่านมาบริษัทถยนต์พยายามหาหนทางลดการใช้น้ำมัน และแม้เครื่องยนต์จะถูกพัฒนาไปก้าวหน้าเพียงใด พวกมันก็ยังใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนอยู่ดี แนวทางหนึ่งของระบบไฮบริด คือการลดการพึ่งพาเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในความเร็วต่ำ เช่นการออกตัว หรือในยามที่การจราจราติดขัด เครื่องยนต์ในรถปกติ อาจจะต้องทำงานตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นระบบไฮบริดพวกมันมีระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้ในการขับเคลื่อน ทำให้ในความเร็วต่ำ แทบไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์เลยด้วยซ้ำไป

ดังนั้น อย่างแปลกใจที่รถยนต์คันโตอย่าง   Honda  Accord Hybrid   จึงจะสามารถทำอัตราประหยัดได้ 20 ก.ม./ลิตร ประหยัดเท่าน้องน้อยอีโค่คาร์ได้สบายๆ 

2.สมรรถนะดีขึ้น ที่ผ่านมา น้อยคนจะกล่าวถึงรถยนต์ไฮบริดในเชิงสมรรถนะที่ได้จากรถเหล่านี้ ด้วยภาพลักษณ์ของรถที่เน้นการประหยัดน้ำมัน-รักษาสิงแวดล้อม แต่หลายปีที่ผ่านมา “รถไฮบริด”พิสูจน์แล้วว่ามันมีดีทางด้านสมรรถนะไม่ต่างกัน ด้วยการมีมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งข้อดีของมอเตอร์ฟ้า คือการตอบสนองเร็ว คล้ายคุณเปิดพัดลมที่บ้าน กดปุ๊ปติดปั้บ

ในรถยนต์ก็เช่นกัน มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เราป้ายคันเร่ง รถไฮบริดก็จะเร่งแซงได้อย่างรวดเร็วทันอกทันใจ และกำลังรวมของระบบมีขีดความสามารถขั้นสูง เช่น ในรถยนต์ Honda  Accord Hybrid  รุ่นปัจจุบัน สามารถให้กำลังขับรวมได้ถึง 215 แรงม้า จากการขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว

นอกจากนี้การติดตั้งแบตเตอร์รี่ที่เพิ่มขึ้นมาจากรถปกติ ทำให้ ส่วนใหญ่รถยนต์ไฮบริด จะมีการกระจายน้ำหนักในตัวรถดีว่า ทำให้สามารถเข้าโค้งดีกว่า และรถจะดูนิ่งกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับรถที่ไม่ใช่ไฮบริด

3.เทคโนโลยีสะอาด มีผู้ใหญ่หลายคนอาจจะเถียงว่า ไม่มีทางที่รถยนต์ไฮบริดจะเป็นเทคโนโลยีสะอาดไปได้ เนื่องจากพวกมันมีแบตเตอร์รี่ บางรุ่นชาร์จไฟบ้าน ยิ่งทำให้มันครหาเรื่องที่มาของการกำเนิดไฟฟ้า ที่อาจจะมาจากถ่านหิน

แง่มุมนี้เป็นที่ถกเถียงกันมายาวนาน แต่ว่ารถยนต์ไฮบริดก็มีหลายรูปแบบ ซึ่งที่ได้รับความนิยม คือรถยนต์ไฮบริดปกติ ที่ใช้เครื่องยนต์ชาร์จไฟฟ้าไปแบตเตอร์รี่ ไปใช้ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า แม้ไฟฟ้าอาจจะมาจากการใช้กำลังเครื่องยนต์ หากก็เป็นในช่วงการขับขี่รถด้วย นอกจากนี้ในบางจุดที่รถปกติสูญเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ เช่นเวลาเบรกหรือถอนคันเร่ง ในรถไฮบริดพลังงานเหล่านั้นถูกกลับนำมาหมุนวนให้พลังงานรถ ด้วยการชาร์จเข้าแบตเตอร์รี่เพื่อใช้ขับมอเตอร์ฟ้าต่อไป ดังนั้นก็พอจะเอ่ยได้ว่าเป็นพลังงานสะอาดอยู่บ้าง

4.พร้อมสำหรับอนาคตในวันนี้ รถยนต์ไฮบริดไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ในประเทศญี่ปุ่น มีนดบายการเปลี่ยนถ่ายรถปกติไปสู่รถไฮบริดอย่างต่อเนื่อง และคุณจะเห็นได้ว่า บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ในเวลานี้ ต่างให้ความสนใจในการลงทุนรถยนต์ไฮบริดมากกว่า

สาเหตุสำคัญข้อหนึ่ง คือรถยนต์ไฮบริดนั้น เป็นเทคโนโลยีที่พร้อมสำหรับวันนี้ พัฒนาการมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ยุค 80 เช่นในรถยนต์  Toyota Prius มีการพัฒนาความสามารถในการขับขี่ดีขึ้นอย่างมาก และพร้อมใช้งานได้ทันที ถ้าลูกค้าพร้อมจะซื้อ ซึ่งปัญหาข้อสำคัญ คือรถไฮบริดมักมีราคาแพง แต่ถ้าได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลราคาของรถพวกนี้ก็จะถูกลงมาก

5.ใช้งานไม่ยุ่งยากเท่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในอนาคตนรถยนต์พลังงานไฟฟฟ้าจะเข้ามาแน่ แต่ปัญหาคือพวกมันกมีความยุ่งยากในการใช้งาน มันไม่เหมือนรถบังคับของเล่นที่ถ่ายหมดก็เปลี่ยนก้อนใหม่ได้ทันที รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อจำกัดทางด้านระยะทางจากขนาดแบตเตอร์รี่ และขนาดแบตเตอร์รี่นำมาซึ่งน้ำหนักที่มากตามไปด้วย

นอกจากนี้การทำให้ลูกค้าใช้งานรถอย่างกังวลใจทำให้เกิดความหวาดผวาในการใช้งานสินค้า ซึ่งรถไฮบริดไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคุณยังมีเครื่องยนต์อยู่ด้วย ถ้าคุณใช้ไฟฟ้าในแบตเตอร์รี่หมด หรือใกล้หมดเครื่องยนต์จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อน และปั่นพลังงานส่วนหนึ่งไปแบตเตอร์รี่ด้วย

6.อุดมคติในการขับขี่ ในภาพความเป็นจริงรถยนต์ไฮบริดเหมาะกับการใช้ชีวิตของพวกเรามาก เวลารถติด ถ้าเราติดเครื่องทิ้งไว้คงจะเปลืองน้ำมัน เวลาวิ่งทางไกล เราก็ต้องการสมรรถนะขับเคลื่อนที่มั่นใจได้

รถไฮบริดตอบโจทย์ 2 ข้อนี้ได้อย่างชัดเจน ในวันทำงานคุณขับเข้าเมืองเจอรถติด มอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยในการขับขี่ของคุณเสียเป็นส่วนใหญ่ และพึ่งพาเครื่องยนต์น้อยลงมาก กลับกันยามขับทางไกล รถไฮบริดจะใช้เครื่องยนต์เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อน พร้อมกับใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยคุณในการเร่งแซง คุณไม่ต้องลากรอบเครื่องยนต์สูงๆ อีกต่อไป ปัจจุบันรถไฮบรดบางรุ่นสามารถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับด้วยความเร็วเดินทางได้แล้ว เช่นใน   Nissan X Trail  hybrid- Toyota C-HR Hybrid  เป็นต้น

7.เครื่องดีเซลไม่สะอาด คุณจะเห็นได้ว่าบริษัทรถยนต์จำนวนมากตัดสินใจผละจากเครื่องยนต์ดีเซล แล้วหันมาเอาจริงเอาจริงเครื่องยนต์ไฮบริดมากขึ้น เนื่องจากพวกมันไม่สะอาดอย่างที่คิดตั้งแต่แรก ปัญหาของเครื่องยนต์ดีเซล คือการปล่อยก๊าซไนโตรเจน ออกไซด์ และอนุภาคสารอื่นๆ ซึ่งในจำนวนนี้มีสารก่อมะเร็งด้วย  กลับกันเครื่องยนต์เบนซินมีการพัฒนามายาวนานจนสะอาด และด้วยการช่วยของมอเตอร์ไฟฟ้า พวกมันจึงยิ่งสะอาดด้วยการหยุดการทำงานบางจังหวะ