ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า คือเทคโนโลยีใหม่ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ และอาจกลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็อาจทำให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ ต้องสูญเสียตำแหน่งหน้าที่ของตนเองไปโดยปริยายในจำนวนมากอีกด้วย

Akio Toyoda ประธานบริษัทในปัจจุบัน ของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่แบรนด์ Toyota มักออกมาแสดงความเห็นที่ไม่ถูกใจเหล่าผู้สนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่บ่อยครั้ง

โดยเฉพาะในเรื่องการที่นาย Akio ไม่ได้มีนโยบายสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว ในช่วงที่เขายังดำรงตำแหน่งประธานบริหาร และมองว่ายานพาหนะขุมกำลังแบบอื่นๆ อย่างยานพาหนะขุมกำลังสันดาปภายใน ยังควรดำรงอยู่ต่อไปในอนาคต เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้งานของลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งขัดใจเหล่าผู้สนับสนุนเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า 100% สายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือสายเทคโนโลยีสีเขียวเป็นอย่างมาก

ล่าสุด นาย Akio ก็ยังออกมาให้ความเห็น ถึงผลกระทบ หากโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ จะเปลี่ยนผันไปสู่การทำแต่ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า 100% กันจริงๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะทั้งจากทิศทางการตลาด หรือจากการที่ภาครัฐผลักดัน

นั่นคือ มันจะทำให้บุคลากรภายในค่ายรถ หรือบริษัทซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานพาหนะ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขุมกำลังสันดาปภายใน ต้องสูญเสียอาชีพไปหลักล้านตำแหน่งซี่งนี่เป็นตัวเลขที่นับเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

“มีผู้คนกว่า 5.5 ล้านคน ที่เกี่ยวข้องกับโลกอุตสากรรมยานยนต์ในญี่ปุ่น, หลายคนที่อยู่ในนั้นคือบุคลากรที่ทำงานในส่วนของการพัฒนา สร้าง และผลิตเครื่องยนต์มานาน” Toyoda กล่าว “หากรถยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวในโลกอุตสาหกรรมยานยนต์, แม้แต่เหล่าซัพพลายเออร์เอง, ผู้คนเหล่านั้นก็จะสูญเสียอาชีพในการทำงานไปโดยปริยาย” ในงานสัมนา ณ มหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น อ้างอิงตามข้อมูลโดย Reuters

นอกจากการแสดงความเห็นเรื่องข้างต้น นาย Akio Toyoda ยังวิเคราะห์อีกว่า หากรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น มีการผลักดันให้ประชาชนหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันหมด เขาก็เชื่อว่ามันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าขึ้นแน่นอนโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน

ดังนั้น เจ้าตัวจึงยิ่งมองว่าการรักษาสมดุลด้านทางเลือกขุมกำลังในยานพาหนะ จึงเป็นสิ่งที่ควรมีเพื่อการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เพราะผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องมุ้งเน้นไปที่การทำแต่รถยนต์ไฟฟ้า และพัฒนายานพาหนะขุมกำลังไฮบริด ที่มาพร้อมขุมกำลังสันดาปภายใน ซึ่งมีการปล่อยมลพิษต่ำ หรือปล่อยมลพิษเป็นศูนย์จากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ หรือ เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ได้เช่นกัน

แน่นอน แม้การยืนกรานในแนวคิดข้างต้น จะทำให้เหล่านักสิ่งแวดล้อม หรือผู้สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าโจมตีนาย Akio Toyoda อย่างหนัก

แต่เมื่อมองในตลาดยานยนต์ภาพรวมช่วงขวบปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากลับไม่ได้มีการเติบโตอย่างที่คิด ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจ หรือปัจจัยด้านความพร้อมที่จะใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ของประชาชน และส่งผลให้คนส่วนใหญ่หันกลับไปซื้อรถยนต์ขุมกำลังไฮบริดมากขึ้น

นั่นจึงทำให้ในปีที่ผ่านมา Toyota กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่สามารถทำตัวเลขยอดขายได้เป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีรถยนต์ไฮบริดของตนเองเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญ และในขณะเดียวกัน เหล่าผู้ผลิตสัญชาติยุโรปเอง ก็ยังต้องทำการชลอแผนการผันตัวเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบกันยกใหญ่ ไม่เว้นแม้กระทั่ง Volvo ที่เป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตีสำคัญของนโยบายการผันตัวนี้ ที่ท้ายที่สุดพวกเขาก็เลือกที่จะผ่อนปรนแนวคิดนี้ลง และต้องขยับแผนธุรกิจใหม่ในที่สุด