ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่เรามักเห็นกันอยู่เสมอก็คือการที่นับวันรถยนต์ของ BMW มักมาพร้อมกับเส้นสายที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งมันอาจมากเกินไปในสายตาของเหล่าสาวกบีมเมอร์
จากเหตุผลในข้างต้น ทำให้ล่าสุด Adrian van Hooydonk หัวหน้าฝ่ายงานออกแบบของ BMW Group ได้ออกมาให้การยอมรับกับสื่อฯดัง Top Gear ว่า ทางบริษัท ก็มิได้เมินเฉยต่อเสียงตอบรับ(ในทางลบ) และได้ยินเสียงวิภาควิจารณ์อยู่พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของงานออกแบบกระจังหน้าที่นับวันมีแต่จะ “มหึมา” มากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการส่งผลลบต่อแบรนด์มากเกินไป หรือไม่ให้ลูกค้าต้องผิดหวัง หัวหน้าทีมออกแบบรายนี้จึงเปิดเผยเพิ่มว่า “ผมคิดว่าในอนาคต สิ่งที่จะเป็นเรื่องสำคัญของเราคืองานออกแบบที่ต้องดูเรียบง่ายมากขึ้น”, “เราจะออกแบบกระจังหน้าที่ได้สัดส่วนกับรถทั้งคันมากขึ้น หรืออิงตามเสียงเรียกร้องที่เราอยากจะให้มัน(กับเหล่าลูกค้า)”
อย่างไรก็ดี แม้จะบอกว่าทางทีมออกแบบ ยอมที่จะลดเส้นสายที่หวือหวาของตัวรถให้น้อยลง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆให้กับตัวรถของตนเอง เพราะ “เรารู้สักว่าในงานของเรา, เราจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆในงานออกแบบอยู่เสมอ, เราไม่สามารถทำสิ่งเดิมๆที่เรามีซ้ำๆได้ตลอด” van Hooydonk กล่าว
“บางทีเราก็ต้องแยกตัว(จากอดีต)แล้วสร้างสิ่งใหม่, และนั่นคือเหตุผลที่เราก็อยากทำให้สำเร็จในระยะเวลา 10 ปีนี้”
นอกจากนี้ van Hooydonk ยังระบุเพิ่มอีกว่า มันคือเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่การออกแบบรถแบบปรับใหม่หมดช่วงแรกๆ จะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ เพราะถ้ามีคนชอบไปเสียหมดแต่แรก เช่นนั้นมันก็อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลยในอนาคต
“โดยปกติแล้ว เมื่อคุณทำสิ่งใดออกมา คุณก็ต้องขยับสู่เป้าหมายถัดไป” van Hooydonk กล่าว “นั่นหมายความว่า เมื่อคุณส่งรถโฉมแรกออกมา, ผู้คนย่อมไม่มั่นใจ บางคนก็ชอบ บางคนไม่”
“แต่หลังจากนั้นในช่วงกลางอายุของตัวรถ (ปรับโฉม Minor-Change) ทุกคนต่างยอมรับ, แล้วมันก็จะเป็นเช่นนั้นจนตลอดอายุการตลาดของตัวรถ และยังยาวไปจนถึงตอนที่มันเป็นรถมือสองด้วย”
“เรามีแนวคิดที่ชัดเจน ว่าเราจะขยับไปในทิศทางไหน, ดังนั้น มันไม่เหมือนกับว่าเราทดลอง หรือโยนหินถามทางออกไป แล้วดูว่ามันได้อะไรติดมือกลับมาบ้าง, (แต่)มันคือขั้นตอนการทำงานที่ถูกคิดมาอย่างดีมากๆ”