แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา BMW i-Series จะไม่ได้ถูกทำตลาดในฐานะตัวตายตัวแทนของรถยนต์ขุมกำลังสันดาปภายใน หรือไฮบริดรุ่นใดๆทั้งสิ้น ทว่านั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ BMW X4

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นรายงานจากสื่อฯสายตรงที่เน้นการทำข่าวรถยนต์จาก BMW โดยเฉพาะอย่าง BMWblog ที่ระบุว่า เนื่องจากในตอนนี้ BMW X4 เจเนอเรชันที่ 2 รุ่นปัจจุบัน ได้เดินทางมาถึงช่วงกลางอายุตัวถังเข้าไปแล้ว จึงทำให้ทางผู้บริหารต้องเริ่มกำหนดทิศทางในการพัฒนาตัวรถรุ่นใหม่ขึ้น เพื่อเปิดตัวมันภายในปี 2026

ซึ่งจุดน่าสนใจก็คือ เมื่ออิงข้อมูลเรื่องทิศทางการพัฒนารถยนต์โมเดลใหม่ๆจากกระทู้ในเว็บบอร์ด Bimmerpost แล้ว

ปรากฏว่า แผนการปรับโฉมในส่วนของ BMW X4 เจเนอเรชันที่ 3 โค้ดเนม “G46” ขั้นต้น ทางผู้บริหาร มีแผนจะทำตลาดมัน 2 รูปแบบด้วยกัน นั่นคือ X4 ตัวปกติ ที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากรุ่นเดิม บนพื้นฐานแพลตฟอร์ม CLAR แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ ทางค่ายจะเน้นการพัฒนาระบบแบตเตอรี่และไฮบริดเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กับตัวรถ X4 รุ่นขุมกำลังไฟฟ้า 100% หรือก็คือ ตัวรถที่ต้องใช้ชื่อ iX4 ภายใต้โค้ดเนม “NA7” ที่จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Neue Klasse อันเป็นแพลตฟอร์มสำหรับทำรถไฟฟ้าโดยเฉพาะไปพร้อมๆกัน

ซึ่งการทำตลาดรถ X4 กับ iX4 ในขั้นต้นนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ทางค่ายตั้งใจเอาไว้ว่าจะขายรถไฟฟ้าในสัดส่วนของรถทั้งหมดเพียง 50% เท่านั้น ในปี 2030 เพื่อให้ลูกค้าที่ไม่สะดวกใจในการใช้งานรถไฟฟ้ายังคงมีทางเลือกต่อไป

อย่างไรก็ดี ในการอัพเดทข้อมูลล่าสุดจากเว็บบอร์ดเดียวกัน กับระบุว่าในขณะนี้ทาง BMW ได้นำแผนการพัฒนารถ X4 ที่ใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน และไฮบริด บนพื้นฐานแพลตฟอร์ม CLAR มาพิจารณาอีกรอบ และมีความเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาอาจตัดสินใจไม่ทำมันต่อ ซึ่งยังต้องรอข้อมูลยืนยันกันต่อไป

และในขณะเดียวกัน สถานะการพัฒนาของ BMW iX4 กลับยังคงมีอยู่ตามเดิม แถมยังถูกระบุไว้อย่างชัดเจนอีกด้วยว่า มันจะถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่ประเทศฮังการีเป็นหลัก และยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า มันจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ เจเนอเรชันที่ 6 ของ BMW ที่ช่วยเพิ่มระยะทางในการใช้งานมากขึ้นอีก 30%, ย่นระยะเวลาในการชาร์จให้สั้นลงอีก 30%, และลดต้นทุนในการผลิตลงถึง 50% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่เจเนอเรชันที่ 5 สำหรับระบบขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าที่ทาง BMW ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ซึ่งทั้งนี้ทางผู้ให้ข้อมูลต้นทางก็ไม่ได้มีการระบุเพิ่มเติมว่าด้วยสาเหตุใดกัน ถึงทำให้ทิศทางการทำตลาดของเจ้า X4 เปลี่ยนไป แต่หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นก็จะเท่ากับว่า สำหรับใครที่กำลังให้ความสนใจในรถ SAV อย่าง X4 วางขุมกำลังสันดาปภายในกันอยู่ ก็อาจจะต้องรีบซื้อกันสักหน่อย หรือหากไม่ได้ติดขัดอะไร และมองเรื่องรูปทรงตัวถังเป็นหลัก จะรอการมาของ iX4 ทีเดียวไปเลยก็ได้ แต่นั่นก็ต้องรอกันอย่างน้อยในปี 2026 กันเลยทีเดียว