หลังจากเปิดขายล่วงหน้าหรือ Pre Sales ที่เมืองจีนไปตั้งแต่เดือนที่แล้วล่าสุดทาง BYD เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ สำหรับ BYD Song L
โดยจำหน่ายทั้งหมดห้ารุ่นย่อย เริ่มที่ 189,800-249,800 yuan หรือราว 935,000-1,229,000 บาท ในร่าง Fastback SUV ชุดกันชนหน้าจุดซ้าย-ขวา มีไฟ DRL ทรงตัว T ติดตั้งอย่างหล่อและไม่มีครีบระบายอากาศที่มุมขอบกันชนหน้าไฟหน้า LED 3 ดวง กับตรา Song ภาษาจีน ที่เด่นสง่า ด้านข้างดุดันด้วยช่องระบายอากาศสีดำซ้าย-ขวากระจกมองข้างมาแบบทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเรียบเนียนกลมกลืนกับตัวถังรถ กระจกรถไร้กรอบแบบ Hardtop เป็นสไตล์โอเปร่าพร้อมเสา A ตกแต่งสีดำ ท้ายรถสวยงามด้วยไฟท้าย LED แนวยาว ฝากระโปรงท้ายติดตั้งสปอยเลอร์แบบกางปีกออกได้ด้วยระบบไฟฟ้าและใต้ชุดไฟท้ายมาครั้งนี้ใช้โลโก้ตัวอักษร BYD กันชนหลังออกแบบใหม่พร้อมลิ้นสปอยเลอร์สีดำใต้กันชนหลัง โดยมารูปแบบการดีไซน์แบบ Pioneering Longyan Aesthetics
ภายในห้องโดยสารคล้ายกับภาพสเก็ตคราวก่อนครั้งนี้ล้ำกว่าเริ่มที่เริ่มชุดแผงคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายซ่อนความทันสมัยล้ำหน้าในตัวติดตั้งชุดมาตรวัดความเร็วแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้วตรงกลางเป็นจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่สามารถเป็นทั้งแนวตั้งและนอนสามารถหมุนจอได้ ขนาด 15.6 นิ้ว ถัดลงมาจะเป็นปุ่มใต้จอสามปุ่มช่องแอร์แล็กสี่ช่องแนวตั้ง หัวเกียร์คริสตัล ที่วางแก้วแม้กระทั่งที่ชาร์จมือถือแบบไร้สายในชุดคอนโซลลกางพร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่สองชั้นคั่นกลางด้วยวัสดุหนังสัมผัสใต้ล่างจะเป็นช่องเสียบ USB C ด้านโทนการตกแต่งภายในจะออกแนวสีเทาเข้ม/สีเบจพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงท้ายตัดและเบานั่งทรงสปอร์ตโอบกระชับและเบาะหลังพับได้แบบ 60:40 และจอแสดงข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้า Head Up Display แบบ AR ขนาดใหญ่ 50 นิ้ว
พลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium iron phosphate (LFP) Blade Battery เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถเรียกว่า Cell To Body หรือ CTB ระยะเวลาการชาร์จทั้งแบบกระแสตรง DC กับ กระแสสลับ AC ยังไม่มีการเปิดเผย เริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง RWD พร้อมความจุแบตเตอรี่ 71.8 kWh ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า วิ่งไกลสุด 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC โดยให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.6 วินาทีในรุ่น Standard Range ขณะที่รุ่น Extended Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังแต่ให้กำลังมากถึง 313 แรงม้า วิ่งไกลสุด 662 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC โดยให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.9 วินาที
รุ่นท็อป AWD Performance ขับเคลื่อนสี่ล้อมเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมความจุแบตเตอรี่ 87.04 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 517 แรงม้า จากมอเตอร์คู่หน้าให้กำลัง 204 แรงม้า และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงม้าวิ่งไกลสุด 602 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC โดยให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.3 วินาที ทุกขนาดความแรงให้ความเร็วสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และช่วงล่างถุงลมแบบ DiSus-A อีกจุดเด่นที่จะเรียกเสียงฮือฮาได้ BYD Song L เป็นรุ่นใหม่ในตระกูล Dynasty สำหรับขายเมืองจีนเท่านั้น