เชื่อว่าเกือบทุกท่านที่ติดตามตลาดยานยนต์ในไทย คงพอจะทราบกันแล้วว่า ในตอนนี้ Changan Automobil แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์เบอร์ต้นของประเทศจีน ได้เข้ามาเปิดตัว เปิดแบรนด์ และเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการแล้วในบ้านเรา แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่จบแค่นั้น
เพราะจากการจัดงานแถลงข่าว ณ ศูนย์ประชุมศิริกิต เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นอกจากการเปิดตัวเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่จะส่งรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่น ภายใต้เครือ Changan Automobile ได้แก่ Deepal S07 และ Deepal L07 เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
นาย Zhu Huarong ประธานบอร์ดบริหาร และเจ้าของบริษัท Chongqing Changan Automobile Co Ltd คนปัจจุบัน ที่ลงทุนมาเป็นประธานในงานแถลงข่าวนี้เอง ยังระบุว่าทางบริษัทตั้งใจที่จะทำการส่งรถยนต์ในเครือ Changan ซึ่งประกอบไปด้วย 3 แบรนด์ย่อย ได้แก่ Deepal, AVATR, และ Nevo ไปทำตลาดยังเหล่าประเทศในภูมิภาคอาเซียน และในเอเชียแปซิฟิคด้วย
ประเด็นสำคัญคือ เนื่องด้วยเป้าหมายธุรกิจในข้างต้น ทางให้ทาง Changan ตั้งใจที่จะให้ประเทศไทยของเรา กลายเป็นศูนย์กลางของการวางจำหน่ายรถยนต์ในเครือไปยังประเทศต่างๆที่ระบุไว้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ นาย Zhu Huarong เลือกจัดงานแถลงข่าว “2023 Changan Southeast Asia Press Conference” ในไทย นั่นเอง
และด้วยเหตุผลในข้างต้น ทางให้ทาง Changan เผยว่าพวกเขาได้เริ่มการก่อตั้ง 3 บริษัทลูกเอาไว้แล้ว เพื่อการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่ Changan Thailand Sales, Changan Thailand Parts Company, และ Changan South East Asia ซึ่งทั้ง 2 บริษัทแรกนั้นแน่นอนว่าจะตั้งอยู่ในประเทศไทย ขณะที่บริษัทสุดท้ายยังไม่มีการยืนยันว่าก่อตั้งในประเทศใด แต่ก็คาดว่าจะอยู่ในไทยเช่นกัน
นอกจากนี้ ทาง Changan ยังเตรียมทุ่มงบอีกกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์กลุ่ม NEV ภายในเครือ ที่นิคมอุสาหกรรม ในจังหวัดระยอง ประเทศไทย ซึ่งโรงงานแห่งนี้ จะมีความสามารถในการผลิตรถยนต์ได้สูงสุด 200,000 คัน/ปี
โดยในเฟสแรกของการก่อตั้งโรงงาน จะมีการทุ่มงบลงไปส่วนหนึ่ง ที่ 10,000 ล้านบาท ก่อน เพื่อให้โรงงานสามารถผลิตรถยนต์ได้ราว 100,000 คัน/ปี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดสายการผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025
และรถที่ถูกผลิตออกมา จะไม่ใช่แค่มีไว้จำหน่ายในไทยและส่งออกไปวางจำหน่ายในประเทศภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น แต่โรงงานแห่งนี้จะได้รับหน้าที่ในการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาสำหรับส่งไปวางจำหน่ายใน ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหราชอาณาจักร, และ แอฟริกาใต้ ด้วย
ด้านการส่งเสริมการขาย และแผนการขาย นาย Zhu Huarong ระบุว่าทางแบรนด์ตั้งใจที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้ได้ 15 รุ่น ภายในปี 2030 เพื่อสอดรับกับนโยบาย “30@30 สู่ฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก” ของภาครัฐ
และจะมีการตั้งศูนย์บริการรับแจ้งปัญหา (Call Center), ศูนย์เก็บอะไหล่, ศูนย์กระจายสินค้า (ตัวรถและอะไหล่), ศูนย์ฝึกอบรม และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อให้การรับรองความต้องการจากลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี