สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป ซึ่งเป็นทวีปสำคัญที่รัฐบาลมีการผลักดันเทคโนโลยียานยนต์กลุ่มนี้อย่างหนักแน่น และโดดเด่นที่สุด ยังคงน่าห่วงอย่างต่อเนื่อง หลังยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรวมนั้นคอยหดตัวลงอยู่เรื่อยๆ
จากการรวบรวมข้อมูลโดย ACEA เปิดเผยว่า มีรถยนต์ไฟฟ้าถูกขึ้นทะเบียนใหม่ในตลาดรวมของทวีปยุโรปช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทั้งหมด 102,705 คัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ 10.8% ด้วยกัน และหากคิดเป็นยอดส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ทั้งหมดของทวีปยุโรป ก็จะเท่ากับว่าเป็นยอดขายที่กินส่วนแบ่งการตลาดเพียง 12.1% เท่านั้น
โดยแม้หากเราเจาะลึกลงไปที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของแต่ละประเทศ แล้วจะพบว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าใน เบลเยียม, เดนมาร์ก, ลักเซมเบิร์ก และอื่นๆ มียอดการจดทะเบียนที่สูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ +44.2%, +68.8%, และ +38.5% ตามลำดับ
แต่ทั้งหมดล้วนยังคงเป็นตลาดขนาดเล็กเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่กว่า และมียอดขายที่หดตัวเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ออสเตรีย -11.7%, สวีเดน -14.9%, ฟินแลนด์ -21.3%, ไอร์แลนด์ -24.9%, และประเทศที่มีตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในยุโรปอยากเยอรมัน ก็มีตัวเลขยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ลดลงมากถึง 36.8%
และอย่างที่เราได้ระบุไปข้างต้นว่า จากตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในหลายๆประเทศที่เกิดขึ้นในเดือนกรกฏาคม ซึ่งน้อยลงจนทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของพวกมันลดลงเหลือ 12.1%
เราก็จะเห็นภาพได้เพิ่มเติมอีกว่ามันเป็นตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดทางด้านยอดขายที่ลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2023 ที่เคยทำไว้ 13.5% และยังเป็นตัวเลขที่ลดลงต่อเนื่องจากยอดส่วนแบ่งของเดือน มิถุนายน กับ พฤษภาคม ปี 2024 ซึ่งทำไว้ 14.4% กับ 12.5% ตามลำดับ
แต่ยังไม่ถือว่าน้อยที่สุดจากสถิติในปีนี้ เพราะในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป มีตัวเลขเพียง 11.9% เท่านั้น และสถิติส่วนแบ่งยอดขายที่ต่ำสุดจริงๆในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมา ก็คือ 11.8% ในเดือนเมษายนปี 2023 ขณะที่ตัวเลขส่วนแบ่งยอดขายที่สูดที่สุดคือ 21% ในเดือนสิงหาคมปี 2023 ซึ่งต้องมารอดูกันว่าในปีนี้มันจะสามารถกระเตื้องกลับมาเหมือนเดิมได้อีกหรือไม่ ?
ทั้งนี้ หากเราย้อนไปดูตัวเลขยอดขายของรถยนต์กลุ่มอื่นๆช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เราก็จะพบว่ายอดขายรถยนต์สันดาปเอง ก็มีการหดตัวลงเช่นกัน ได้แก่ รถยนต์เบนซิน ที่มียอดขายหดตัวลง 7% และทำให้ส่วนแบ่งการตลาดลดลงเหลือ 33.4% ส่วนรถยนต์ขุมกำลังดีเซล ก็มียอดขายหดตัวลง 10.1% และมีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 12.6% เท่านั้น
ที่น่าตกใจคือสำหรับรถยนต์ในกลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริดเอง ก็มียอดขายหดตัวลง 14.1% จากตัวเลขยอดขาย 57,679 คัน ทำให้ตอนนี้ส่วนแบ่งการตลาดของพวกมัน ยิ่งลดลงเหลือเพียง 6.8%
โดยรถยนต์กลุ่มเดียวที่มียอดขายในทางบวก ก็คือรถยนต์กลุ่มขุมกำลังไฮบริด ที่สามารถทำยอดขายทั่วยุโรปไปได้ทั้งหมด 273,0003 คัน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่มากขึ้นกว่า 25.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
และต้องขอบคุณเหล่าลูกค้าใน 4 ประเทศตลาดใหญ่ ได้แก่ ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมัน, และอิตาลี ที่หันมาให้ความสนใจในรถยนต์กลุ่มนี้มากขึ้น จนมีอัตราการเติบโตกว่า +47.4%, +31.5%, +22.4% และ +17.4% ตามลำดับ และทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของพวกมันตอนนี้ ขยับขึ้นมาเป็น 32% จากที่เคยทำได้ 25.5% ในเดือนเดียวกันของปี 2023