เป็นที่ทราบกันดีว่านับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2024 ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างช้า แต่จากรายงานการศึกษาตัวเลขยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กลับไม่เป็นแบบนั้น
เพราะแม้ก่อนหน้านี้ เราจะพึ่งมีการรายงานไปว่า ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน หรือ รถยนต์ EV ในยุโรปช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการหดตัวลงกว่า 7.8% โดยเฉพาะในประเทศเยอรมันซึ่งมีตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของทวีป ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ก็ยิ่งมียอดขายที่ลดลงกว่า 12% นับตั้งแต่เดือนมกราคม มาจนถึงเดือนล่าสุด
แต่จากการรายงานข้อมูลโดยสื่อ Reuters กลับระบุว่ายอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา มีอัตราการเติบโตทางด้านยอดขายที่ดีขึ้นกว่า 7.1% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023
และในขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก Rho Motion บริษัทด้านการวิเคราะห์การตลาด ก็ระบุว่าหากรวมยอดขายของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งในกลุ่ม EVs และในกลุ่ม PHEVs เข้ามา ก็จะพบว่าในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น พวกมันสามารถสร้างยอดขายทั่วโลกได้กว่า 1.4 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตกว่า 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ โดยกว่า 880,000 คัน คือรถที่ถูกขายในประเทศจีน ซึ่งเท่ากับว่าเป็นอัตราการเติบโตในประเทศดังกล่าวที่สูงขึ้นกว่า 31% เมื่อเทียบช่วงเวลากันแบบปีต่อปี และเมื่อเราเจาะจงไปที่ตัวเลขยอดขายรถยนต์กลุ่ม PHEVs ก็จะยิ่งพบว่ามันกำลังเป็นที่ต้องการในกลุ่มชาวจีนค่อนข้างมาก เพราะมีอัตราการเติบโตที่มากขึ้นกว่า 70% เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับยอดขายในเดือนกรกฎาคม ปี 2023
“ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นเหมือนกับถุงรวมทุกความผันผวนในปีนี้” Charles Lester ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของ Rho Motion กล่าว “ยอดขายทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง และเติบโตอย่างรุนแรงในประเทศจีน, อเมริกาเหนือ และประเทศที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเริ่มตั้งไข่”
“อย่างไรก็ดี ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปกลับร่วง, โดยเฉพาะในเยอรมัน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ซึ่งจะยังคงมีผลต่อไปอีกพักใหญ่, แต่ถึงอย่างนั้น ในฝรั่งเศส กับสหราชอาณาจักร (รถยนต์พลังงานไฟฟ้า)กลับยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี, เราคาดว่าจะได้เห็นกระแสความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ต่อไปจนสิ้นปี เว้นเสียแต่ว่าความผันผวนของตลาดทั่วโลกจะหยุดลง”
นอกจากนี้ ทาง Rho Motion ยังระบุอีกว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมขุมกำลังสันดาปภายในช่วยขับเคลื่อนแบบ Range Extender จะยังคงแข็งแกร่งต่อไป ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะอันที่จริงก็ดูเหมือนว่าผู้คนจะเริ่มกลับมาให้ความสนใจในกลุ่มรถยนต์ขุมกำลังไฮบริดมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานที่หลากหลายกว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วน และให้ความประหยัดรวมถึงความแรงที่มากกว่ารถยนต์สันดาปไปพร้อมๆกันนั่นเอง