ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา อาจจะจริงอยู่ว่าประเทศไทยของเรา ถือเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ Ford Ranger และส่งออกรายใหญ่มาโดยตลอด แต่ดูเหมือนมันอาจจะไม่รวมถึง 2025 Ford Ranger PHEV

2025 Ford Ranger PHEV คือว่าที่รถกระบะขุมกำลังไฮบริดเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ ที่จะถูกทำขึ้นมาเพื่อเสริมไลน์อัพให้กับ Ford Ranger เจเนอเรชันปัจจุบัน ซึ่งแต่เดิมก็มีรุ่นย่อยขุมกำลังให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลายแบบมากอยู่แล้ว ตั้งแต่ ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว-เทอร์โบคู่, ดีเซล V6 3.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว, ไปจนถึง เบนซิน V6 เทอร์โบคู่

ซึ่งเราต่างทราบถึงสรรพคุณขีดความสามารถของเครื่องยนต์เหล่านี้อยู่แล้ว เพราะชาวไทยได้สัมผัสกันหมดเกือบทุกแบบ (เว้นแค่ V6 ดีเซล ที่ไม่ยอมขายในบ้านเราสักที มีแต่ทำส่งออกอย่างเดียว)

ส่วนตัวเรนเจอร์เสียบปลั๊กรุ่นใหม่ ที่แม้จะถูกเผยโฉมครั้งแรกเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันรายละเอียดขุมกำลังใดๆทั้งสิ้น นอกจากการเปรยว่ามันมาพร้อมกับแบตเตอรี่ ที่ทำให้ตัวรถสามารถวิ่งด้วยโหมด EV 100% ได้ไกลสุด 45 กิโลเมตร/ชาร์จ และหากเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน ก็จะให้แรงบิดสูงสุดในมากกว่าเครื่องยนต์ ดีเซล V6 3.0 ลิตร เทอร์โบ ซึ่งเคลมตัวเลขไว้ที่ 600 นิวตันเมตร เสียอีก

อย่างไรก็ดี จากการประกาศข้อมูลล่าสุดโดยทาง Ford บริษัทแม่ ระบุว่าตอนนี้พวกเขาได้มีการทุ่มเม็ดเงินกว่า 5,200 ล้าน ดอลล่าร์ หรือราวๆ 184,000 ล้าน บาท เพื่อปรับปรุงโรงงานในเมืองซิลเวอร์ตัน ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการผลิตรถกระบะ Ranger PHEV ตั้งแต่ การสร้างไลน์ประกอบแบตเตอรี่แพ็ค, เปลี่ยนตัวหุ่นยนต์ กับ อุปกรณ์เชื่อมตัวถังและชิ้นส่วน ให้เข้ากับชิ้นงาน, ขยายพื้นที่เพื่อทำไลน์ประกอบแบตเตอรี่เข้ากับตัวถังรถ

โดยปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้มีความสามารถในการผลิตรถได้มากถึง 200,000 คัน ต่อปี และยังเป็นฐานการผลิตหลักของรถ Volkswagen Amarok เจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งเป็นรถที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกันกับ Ford Ranger เจเนอเรชันล่าสุด และแน่นอนว่าโรงงานนี้ ก็เป็นฐานการผลิตของมันด้วย โดยมีไว้เพื่อทำรถวางจำหน่ายในทวีปแอฟฟริกา และยุโรป พร้อมกันนี้ยังผลิต Ford Everest ไว้วางจำหน่ายในบ้านเกิดของตนเองอีกต่างหาก

“เช่นเดียวกับ Ranger รุ่นปัจจุบัน, Ranger Plug-in Hybrid รุ่นใหม่ ก็จะถูกส่งออกไปวางจำหน่ายในทวีปยุโรปด้วย” Andrea Cavallaro หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการด้านการตลาด Ford International เปรยในการประกาศข้อมูลล่าสุด

“และถือเป็นครั้งแรกในรอบสองทศวรรษ ที่โรงงานซิลเวอร์ตัน จะทำการส่งออกรถไปวางจำหน่ายในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในฐานะฐานการผลิตหลักของ Ranger Plug-in Hybrid ที่วางจำหน่ายในประเทศเหล่านี้”

ประเด็นสำคัญก็คือ นับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา ประเทศไทย ถือเป็นฐานการผลิตหลักของรถยนต์ตระกูล Ford Ranger เพื่อส่งออกไปวางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยนอกจากเราจะมีจุดแข็งในเรื่องมาตรฐานการผลิตแล้ว ยังมีจุดแข็งในเรื่องความสะดวกในการขนส่ง และการทำข้อตกลงงดเว้นภาษีการส่งออก-นำเข้า กับทั้งสองประเทศด้วย

ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่า หาก Ford Ranger PHEV ถูกนำมาผลิตในไทย แล้วส่งออกไปวางจำหน่ายยังทั้งสองประเทศข้างต้น ย่อมเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่า เว้นเสียแต่ว่าโรงงานของ Ford ในประเทศไทย จะมีโปรเจ็กท์อื่น จึงยังไม่สะดวกที่จะผลิตตัวรถรุ่นดังกล่าวได้ในระยะเวลาอันใกล้

และด้วยที่มาเดียวกันนี้ จึงทำให้สำหรับชาวไทยที่กำลังรอคอยการมาของ Ranger PHEV จึงอาจจะต้องรอกันต่อไปอย่างน้อยก็จนถึงปี 2026 โดยนับจากช่วงเวลาที่ตัวรถจากแอฟริกาจะถูกส่งมอบไปวางจำหน่ายในหลายๆประเทศทั่วโลก รวมถึงออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

เนื่องจากหาก Ford ตัดสินใจผลิต Ranger PHEV ในไทยตั้งแต่ปี 2025 พวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องนำรถจากแอฟริกาไปวางจำหน่ายในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ตั้งแต่แรกเลยนั่นเอง