กลายเป็นเรื่องราวดราม่าใหญ่โตกันไปไม่น้อย ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา เมื่อเกิดกรณีของสาวใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา ทำการทุบรถ Ford Everest ของตนเอง เนื่องจากไม่พอใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถของตน หลังใช้งานไปเพียง 900 กิโลเมตร แต่ล่าสุดทางค่าย ก็ได้ออกมาแสดงความเคลื่อนไหวเพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
คําชี้แจงจากฟอร์ด
จากเหตกุารณ์ที่ลูก ค้าฟอร์ดในจังหวัดนครราชสีมาทุบรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์เมื่อวัน ที่ 22 กันยายน 2565
บริษัทขอชี้แจงดังนี้
จากการที่ลูก ค้ามีความกังวลใจเรื่องการแสดงสัญญานแจ้งเตือนของระบบตรวจวัดแรงดัน ลมยางไม่ถูกต้อง
บริษัทได้ตรวจสอบเบืองต้นพบว่าลูกค้ามีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งการทํางานของ
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์บางรุ่นอาจส่งคลื่นความถี่ที่มีผลต่อระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
บริษัทจึงแนะนําให้ลูกค้าถอดอุปกรณ์เสริมดังกล่าวออก ทําให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจ และได้นําเรื่องเข้า
ร้องเรียนกับคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมการไกล่
เกลี่ยตามนดัหมาย แต่ไม่สามารถบรรลขุ่อตกลงร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่
ลูก ค้าต่อไป
ทั้งนี้ ปัญหาที่สาวทุบรถ Everest ระบุว่าเกิดขึ้นกับรถของตนเองนั้น ไม่ได้มีแค่เพียงเรื่องของ ระบบตรวจวัดลมยาง แต่ยังมีในส่วนของ หน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แอนดรอยด์ได้, ระบบเซ็นเซอร์เปิดประตูหลังไม่ได้, สตาร์ทรถเครื่องสั่นทั้งคัน, และ ระบบเกียร์ถอยหลังมีปัญหา
ซึ่งคาดว่าทางฟอร์ดจะมีการชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ออกมาเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้