แม้ Ford จะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่มีการทำตลาดรถกระบะไฟฟ้าเป็นรายแรกๆของโลก แต่ด้วยกระแสด้านการตลาดที่เปลี่ยนไป ทำให้ตอนนี้พวกเขากลับไปให้ความสนใจในการทำรถกระบะกลุ่มขุมกำลังไฮบริด, ปลั๊กอิน ไฮบริด, และ REEV มากกว่าแทน
จากการให้ข้อมูลของนาย Jim Farley ผู้บริหารสูงสุดของ Ford บริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า “ขณะนี้ทางแบรนด์ได้เริ่มโปรเจ็กท์การพัฒนารถกระบะและรถอเนกประสงค์แพลตฟอร์มใหม่ ที่จะมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานร่วมกับขุมกำลังที่หลากหลาย ตั้งแต่ขุมกำลังไฮบริด, ปลั๊กอิน ไฮบริด, และ REEV” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต ที่อาจยังไม่ต้องการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่าง BEV
นอกจากนี้ Farley ยังยกตัวอย่างเป็นกรณีของลูกค้าในประเทศจีน หลังจากที่เจ้าตัวได้มีการเดินทางไปดูงานของบริษัทคู่ค้าในประเทศดังกล่าวอย่าง Li Auto แล้วพบว่า “เราประทับใจมากที่ได้เห็นลูกค้าใช้รถกลุ่มนี้เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า”, “พวกเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นรถไฮบริด หรือปลั๊กอิน ไฮบริด, แต่พวกมันคือรถยนต์ไฟฟ้า”
“พวกเขาใช้รถแทบจะ 95% ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน และชาร์จมันในทุกๆคืน”
“ความน่าสนใจยิ่งมากขึ้น เพราะ(นับวัน)พวกมันยิ่งเหมาะกับการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ, แบตเตอรี่ทุกวันนี้เล็กลงมากแต่สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 150 ไมล์ (ราว 241 กิโลเมตร) เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ของรถครอสโอเวอร์ที่นั่ง 3 แถว ที่วิ่งได้ไกล 350 ไมล์ (563 กิโลเมตร) ในรถยนต์ไฟฟ้า 100%, ซึ่งมันคือการพูดถึงส่วนต่างกว่าสิบ, สิบ และสิบพัน (หมื่นเหรียญ) ดอลล่าร์” ทำให้การเลือกซื้อรถยนต์ไฮบริด หรือปลั๊กอิน ไฮบริด อาจเป็นตัวเลือกที่ดูคุ้มค่ากว่า เพราะปริมาณไฟฟ้าที่สามารถใช้ได้ต่อชาร์จ ณ ปัจจุบัน ก็ถือว่ามากพอสำหรับการใช้งานแบบวันต่อวันแล้ว
ทั้งนี้ แม้แผนการวางจำหน่ายตัวรถแพลตฟอร์มใหม่ ที่ Jim Farley กล่าวถึง จะยังไม่ถูกกำหนดเวลาที่แน่ชัดออกมา แต่ความเคลื่อนไหวในปัจจุบันของทางค่ายเอง ก็เป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่าตอนนี้ทาง Ford ได้ให้ความสำคัญในการทำรถขุมกำลังไฟฟ้าน้อยลงจริง
ทั้งจากการประกาศยกเลิกการทำตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้าที่นั่ง 3 แถว ที่ดั้งเดิมมีแผนจะเปิดตัวภายในปี 2025 นี้, ตามด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ที่ลดลง 9% แม้จะพึ่งมีการเปิดตัวและทำตลาดรถ Ford Explorer และ Ford Capri ไปเมื่อปีก่อน
และดูเหมือนว่าตัวรถ Ford Ranger PHEV เอง ก็จะได้รับความสนใจจากเหล่าลูกค้าที่ตัวรถถูกส่งไปทำตลาดมากขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะในแถบแอฟริกาใต้ และในประเทศออสเตรเลีย แม้แต่ในไทยเราเองก็สนใจด้วยเช่นกัน ติดแค่ทางค่ายยังไม่มีแผนส่งมาขาย หรือผลิตไว้ขายในบ้านเราเลยในตอนนี้นั่นเอง