ทุกครั้งที่ พลังงานน้ำมัน ถีบตัว สูงขึ้น คนส่วนใหญ่ จะมองหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายของตัวเอง ปัจจุบัน หลายคนอาจจะเริม่คิดถึงรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทวีความนิยม มากขึ้น แต่ การ ติดแก๊ส ที่เคยนิยม มาในอดีต ก็ไม่เคยจางหายไป เลย

การ ติดแก๊ส เป็น วิธีการเพิ่มความประหยัดให้รถสันดาป โดยติดตั้งระบบจ่ายเชื้อเพลิงแก๊ส เข้าไปในรถ เพื่อใช้ในการเผาไหม้แทนน้ำมัน

ระบบที่ได้รับความนิยม อย่างแพร่หลาย ก็คิดระบบ LPG ซึ่งมีข้อดีหลายประการ ทั้ง ราคาถูก ,​ถังมีน้ำหนักเบา รวมถึงมีผู้มากประสบการณ์หลายเจ้า ทำให้แก๊ส แพร่หลายทุกครั้งในยุคน้ำมันแพง แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ กับยุคปัจจุบันก็ตาม

ที่มาที่ไป ของการติดแก๊ส น่าจะมาจากบรรดารถสาธารณะ ที่นิยมใช้พลังงานแก๊ส ในการวิ่งรับส่งผู้โดยสาร แทนน้ำมัน เนื่องจากมีราคาถูกกว่าต่อหน่วย

ยกตัวอย่างเช่น ราคาน้ำมันปัจจุบัน ณ วันที่เขียนบทความราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ลิตรละ 35.75 บาท ส่วน Lpg จะมีราคาสูงสุดเพียง 15.96 บาท./กก. ถือว่าค่อนข้างถูกกว่าราวๆ 2 เท่า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน (อ้างอิงจาก eppo)

ด้วยเหตุนี้ ในอดีต ทุกครั้งที่พลังงานหลัก อย่างน้ำมัน มีราคาแพง ผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่มีประเด้น เรื่องการจ่ายค่าพลังงาน มักจะนำรถไปติดตั้ง ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแก๊ส หรือ ติดแก๊ส

ค่าใช้จ่ายในการติดในอดีตมีราคาเริ้นเพียงราวๆ 1-2 หมื่นบาท ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น เท่าที่ติดตามดูจากหลายในสื่อสังคมออนไลน์ ค่าติดตั้งจะอยู่ราวๆ 30,000-50,000 บาท แล้วแต่อุปกรณ์ที่เราเลือก และ ระบบ ที่เราตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ เช่นระบบ Lamda หรือ ระบบหัวฉีด ก็เลือกเอา ตามงบประมาณที่มี ได้เลย

แก๊ส ไม่เคยเสื่อมความนิยม ถ้านับว่า ตั้งแต่ผมรู้จัก เล่นรถมาก ก็เห็น คนติดแก๊สกันบ่อย มีตั้งแต่รถทั่วไป ยันรถราคาแพง แต่คนจะติดตั้งมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับในแต่ละยุคว่า ช่วยเวลานั้นสถานการณ์ ราคาน้ำมันรุนแรงมากแค่ไหน

เช่นในยุคหนึ่งช่วงปี 2007-2008 เป็นช่วง ที่ราคาน้ำมันค่อนข้างแพงมาก คนจึงนิยม ติดแก๊สกันมาก พอราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ก็ได้รับความนิยมน้อยลงไปตามลำดับ

น่าแปลก ที่มันไม่เคยตายหายไปจริงๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ

ยิ่งกว่านั้น , การติดแก๊ส ยังเป็นหนทางประหยัดที่ได้รับการพิสูจน์ จนเป็นที่ยอมรับว่ามอบความประหยัดอย่างมีนับบะสำคัญ​แม้ว่า เมื่อใช้แก๊ส อัตราบริโภคจะด้อยกว่าน้ำมัน หากค่าพลังงาน ต่อหน่วยก็ถูกกว่า เช่น ถัง 35 ลิตร หากเติมเต็มถัง จะมีค่าใช้จ่ายราวๆ 500 กว่าบาทเท่านั้น

ปัญหา ของรถติดแก๊ส

อย่างไรก็ดี , สาเหตุที่รถติดแก๊สเสื่อมความนิยมลงไป นอกจากประเด็นเรื่องพลังงานที่มีการเปลี่ยนไปตามสถานการณ์แล้ว

ปัญหาสำคัญ คือ ประเด็นทางด้านราคาขายต่อ ที่ตกลงอวบฮาบ เนื่องจาก พ่อค้ามือสอง ไม่ชอบ รถติดแก๊ส เพราะบางยี่ห้อ อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์

เนื่องจาก แก๊สมีความร้อนในการเผาไหม้ค่อนข้างสุงกว่าน้ำมัน รวมถึง ตัวมันมีสถานะเป็นก๊าซ​ไม่ใช่ของเหลว แบบน้ำมัน ที่สามารถฉีด แล้วไปลดอถณหภูมิในระหว่าง การทำงานได้ ทำให้มีการสึกหรอมากกว่าปกติ

หากไม่ดูแลเป็นอย่างดี รถติดแก๊ส มีโอกาสสูงมากที่จะเสื่อมสภาพไวกว่า รถปกติ ทั่วไป

มันเหมือนกับ เราประหยัดค่าพลังงาน แต่ก็ต้องเก็บไว้ซ่อมบำรุงภายหลัง ทำให้คนเริ่มมองว่า ความประหยัดที่ได้ สุดท้ายก็มีราคาที่ต้องจ่าย เกิดขึ้นในอนาคค

ไม่เพียงแค่นี้ การใช้แก๊สมีกฏหมายเข้มงวดในการระแวดระวังการใช้งาน เช่นต้องติดป้าย รถ LPG , ต้องแจ้งลงเล่ม ต่อกรมขนส่ง ,​ รวมถึง เมื่อถึงอายุการใช้งานพักใหญ่ ต้องมีการตรวจสภาพถัง ให้พร้อมอยู่ทุกปี แล้วไหนจะต้องเปลี่ยนถัง เมื่ออายุครบ 10 ปี

ทำให้ สำหรับผู้ใช้รถทั่วไป การติดแก๊ส แม้จะดีเรืองประหยัด แต่มีความจุกจิกในการใช้งาน ที่ต้องมาเสียในตอนหลัง

รถแก๊ส กับยุค EV

ตัดภาพมายุคนี้ จะสังเกตว่า ความนิยมในการติดแก๊ส ไม่เหมือนก่อนในวันวาน เนื่องจาก มีเทคโนดลยีใหม่ เข้ามา “รถยนต์ไฟฟ้า”

ที่จริงแล้ว คนไทย ไม่ได้ยี่หนะกับการรักษาสิ่งแวดล้อมากมายอะไร แต่ ถ้าเรื่องประหยัดเงินในประเป๋า ต้องบอกว่า ขอสู้ตายกันเลยทีเดียว

รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ไฟฟ้า เป็นหนทางประหยัดของคนในยุคนี้ เนื่องจาก การส่งเสริมสนับสนุน ของภาครัฐบาล ทำให้รถมีราคาถูก

ไม่เพียงเท่าานี้ ค่าพลังงานไฟฟ้าต่อหน่วย ยังค่อนข้างถูก หากเปรียบกับเชื้อเพลิงตัวอื่น เช่นแก๊ส , น้ำมัน จะพบว่า ไฟฟ้าถูกที่สุด เนื่องจากสามารถจัดหามาได้จากหลายทาง หลายกระบวนการ

ด้วยเหตุนี้ การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงเป้นทางออกที่ดี สำหรับคนที่มองหาความประหยัดในการเดินทาง แถมไม่เสียราคาในการขายต่อ แบบรถติดแก๊ส

ด้วยปัจจัย หลายๆ อย่าง ดังกล่าว ทำให้ยุคนี้ คนจึงไม่บูม เรืองการติดแก๊สเหมือนก่อน แต่จะเน้น เปลี่ยนรถคันเดิม ไปเป็นรถยนต์ไฟ้า ซึ่งตรงกับเป้าประสงค์ของภาครัฐบาลที่มองว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นทางออก ของคนในอนาคต

แม้ว่าวันนี้ การติดแก๊ส จะยังมีอยู่ หากมันก็ไม่แพร่หลายเหมือนเดิม เนื่องจาก มันเป็นการดัดแปลงรถให้ประยหัดมากขึ้น ในขระที่วันนี้ เรามีทางเลือกใหม่ “รถยนต์ไฟฟ้า” เข้ามาโดนใจ มากขึ้น

แถมคนเคยมีบทเรียน การติดแก๊ส มาหลายรอบ ในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา จนรู้แล้วว่า มันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร